Previous Page  66 / 238 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 66 / 238 Next Page
Page Background

งานวิจัยวัฒนธรรมภาคกลาง

65

มาแล้ว (Paritta 1989) ด้วยการวิ

เคราะห์การปรั

บเปลี่

ยนความหมายที่

เชื่

อมโยงกั

บริ

บทของการเปลี่

ยนแปลงสั

งคมสมั

ยใหม่

แม้

ปริ

ตตาจะพบว่

า ละครแก้

บนยั

งคงสื

บทอดขนบการแสดงหลายอย่

างเกี่

ยว

กั

บร่

างกาย ที่

อาจแยกออกเป็

นส่

วนของร่

างศั

กดิ์สิ

ทธิ์

และร่

างอุ

จาด แต่

ก็เกิ

ดการ

ต่อรองกั

นขึ้

นระหว่างมุ

มมองเกี่

ยวกั

บร่างกายตามแบบดั้

งเดิ

ม กั

บทั

ศนะอื่

นๆ ของ

วั

ฒนธรรมคนเมื

องสมั

ยใหม่ จนมี

ลั

กษณะที่

หลากหลายและอาจขั

ดแย้งกั

นเอง ซึ่

ไม่

อาจสรุ

ปแบบเหมารวมได้

จากความคิ

ดเดี

ยว ปริ

ตตาวิ

เคราะห์

ว่

าสาเหตุ

ที่

เป็

นเช่

นั้

น เพราะทั

ศนะในการให้ความหมายต่อร่างกายของตั

วละคร มั

กจะเกี่

ยวข้องกั

การแสดงอัตลักษณ์และคุณค่าต่างๆ ของนั

กแสดง ตามเงื่อนไขของการแสดงว่า

เป็

นแบบสมมุ

ติ

หรื

อเหมื

อนจริ

ง และตามยุ

คตามสมั

ยที่

ผู้

คนจะให้

ความหมายกั

บร่

าง

ของตั

วละครต่างๆ กั

นไป ซึ่

งนั

กแสดงก็

สามารถเลื

อกหยิ

บมาใช้ปรุ

งแต่งความเป็น

ตั

วตนของพวกเขา เพื่

อให้

สามารถแสดงได้

อย่

างมี

ชี

วิ

ตชี

วา (ปริ

ตตา 2541: 154-160)

จากกรณี

ศึ

กษาต่างๆ ดั

งกล่าวได้แสดงให้เห็

นว่า ความเข้าใจวั

ฒนธรรมได้

เปลี่

ยนแปลงไปอย่างมาก จากแนวทางต่างๆ ของกลุ่มศึ

กษาก่อนหน้านี้

กล่าวคื

แทนที่

แนวทางนี้

จะมองวั

ฒนธรรมในเชิ

งคุ

ณค่

าและจิ

ตส�

ำนึ

กที่

เป็

นเอกภาพและ

กลมกลื

น ก็

หั

นมามองวั

ฒนธรรมในเชิ

งความหมายเชิ

งสั

ญลั

กษณ์

ที่

ผสมผสานอย่

าง

ซั

บซ้

อนและขั

ดแย้

งกั

นเองได้

นอกจากนั้

นยั

งเชื่

อมโยงความคิ

ดกั

บความสั

มพั

นธ์

เชิ

อ�

ำนาจต่

างๆ และการสร้

างอั

ตลั

กษณ์

ของผู้

คนในวั

ฒนธรรมนั้

นๆ ด้

วย ภายใต้

บริ

บท

ของการเปลี่

ยนแปลงทางการเมื

องและเศรษฐกิ

จของสั

งคมสมั

ยใหม่

แต่

อย่

างไรก็

ตาม การมองความขั

ดแย้

งในความหมายนั้

น ยั

งคงจ�

ำกั

ดอยู่

ในเชิ

ความคิ

ด และเป็

นความขั

ดแย้

งที่

สามารถด�

ำรงอยู่

ร่

วมกั

นได้

มากกว่

าเป็

นความขั

ดแย้

เชิ

งวาทกรรมอย่างชั

ดเจน แม้จะเริ่

มมี

การใช้ค�

ำว่าวาทกรรมบ้างแล้วในงานบางชิ้

เช่

น สุ

ริ

ยาและคณะ (2539) และ ปริ

ตตา (2541) แต่

น่

าจะยั

งคงใช้

ในนั

ยของการนิ

ยาม

ความหมายเชิ

งสั

ญลั

กษณ์

ที่

เกี่

ยวพั

นกั

บความสั

มพั

นธ์

เชิ

งอ�

ำนาจ และการสร้

าง

อั

ตลั

กษณ์

เท่

านั้

น ยั

งไม่

ครอบคลุ

มถึ

งนั

ยทางการเมื

องของวั

ฒนธรรมในการสร้

าง

ความจริ

งเพื่

อการครอบง�

ำ ตามแนวความคิ

ดของ Foucault อย่างชั

ดเจนนั

ก ทั้

งๆ ที่