Previous Page  54 / 238 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 54 / 238 Next Page
Page Background

งานวิจัยวัฒนธรรมภาคกลาง

53

ขั

ดแย้

งกั

นมากขึ้

น ความสั

มพั

นธ์

ต่

างๆ เหล่

านั้

นจะสามารถปรั

บเปลี่

ยนไป พร้

อมๆ กั

กระบวนการผสมผสานวิ

ธี

คิ

ดต่

างๆ ที่

จะเกิ

ดขึ้

นท่

ามกลางการปรั

บความสั

มพั

นธ์

กั

สั

งคมภายนอกอื่

นๆ ซึ่

งจะแสดงถึ

งศั

กยภาพและพลวั

ตของท้

องถิ่

น ในการสร้

างสรรค์

วิ

ธี

คิ

ดและความสั

มพั

นธ์

ขึ้

นมาใหม่

มากกว่

าการเน้

นไปที่

การผลิ

ตซ�้

ำส�

ำนึกร่

วม

หรือความหมาย และการสืบทอดโครงสร้างองค์กรหรือกฎเกณฑ์ ตามการศึกษา

แนววั

ฒนธรรมชุ

มชนข้างต้น

แม้

การศึ

กษาวั

ฒนธรรมในแนวสิ

ทธิ

ชุ

มชนจะหั

นมาเน้

นวิ

ธี

คิ

ด การปฏิ

บั

ติ

การ

และความสั

มพั

นธ์

เชิ

งอ�

ำนาจมากกว่

าจิ

ตส�

ำนึ

กและองค์

กรเชิ

งสถาบั

นแล้

วก็

ตาม

ก็

อาจจะยั

งจั

ดอยู่

ในกลุ

มศึ

กษาวั

ฒนธรรมท้

องถิ่

นด้

วย เพราะยั

งคงแฝงมุ

มมอง

เชิ

งหน้

าที่

นิ

ยมอยู่

อย่

างชั

ดเจน โดยเฉพาะการมองความเชื่

อมโยงระหว่

างการ

ปรั

บเปลี่

ยน และการผสมผสานความสั

มพั

นธ์แบบต่างๆ ในฐานะที่

เป็นพลั

งส�

ำคั

ในการต่

อรอง ซึ่

งมี

หน้

าที่

ผลั

กดั

นให้

ท้

องถิ่

นสามารถรั

กษาอ�

ำนาจของชุ

มชนไว้

ได้

แต่ความเข้าใจหน้

าที่นิยมในแนวสิทธิชุมชนนั้

น น่าจะต่

างจากความเข้

าใจในการ

ศึ

กษาวั

ฒนธรรมท้

องถิ่

นแนวอื่

นๆ ขณะที่

แนวความคิ

ดเรื่

องหน้

าที่

นิ

ยมทั่

วไปจะเข้

าใจ

ว่า ในจิ

ตส�

ำนึ

กและโครงสร้างขององค์กรจะมี

นั

ยของหน้าที่

ด�

ำรงอยู่ร่วมกั

นแล้ว

ทั้

งนี้

เพราะแนวสิ

ทธิ

ชุ

มชนไม่

ได้

ยึ

ดติ

ดอยู่

กั

บความเข้

าใจที่

ตายตั

วเช่

นนั้

หากพยายามแยกความคิ

ดหน้าที่

ให้เป็นอิ

สระออกมา จากทั้

งส�

ำนึ

กและโครงสร้าง

ด้

วยการอธิ

บายว่

า นั

ยของหน้

าที่

นั้

นจะต้

องขึ้

นอยู่

กั

บเงื่

อนไขบางประการ เพราะ

ไม่

สามารถด�

ำรงอยู่

ได้

ด้

วยตั

วเอง และเงื่

อนไขส�

ำคั

ญเช่

นนั้นก็

คื

อ กระบวนการ

ปรั

บเปลี่

ยนความสั

มพั

นธ์

เชิ

งอ�

ำนาจ เช่

น กระบวนการต่

อรองระหว่

างชุ

มชนท้

องถิ่

กั

บสั

งคมอื่

นๆ ภายนอก ซึ่

งจะสร้

างเงื่

อนไขให้

เกิ

ดการผสมผสาน และการสร้

าง

วิ

ธี

คิ

ด รวมทั้

งความสั

มพั

นธ์

แบบใหม่

ๆ ขึ้

นมา เพื่

อท�

ำหน้

าที่

เสริ

มพลั

งให้

ชุ

มชน

สามารถรั

กษาอ�

ำนาจในการควบคุ

มทรั

พยากรไว้ได้

ตั

วอย่

างงานวิ

จั

ยตามแนวสิ

ทธิ

ชุ

มชนที่

ส�

ำคั

ญชิ้

นหนึ่

งก็

คื

อ งานของ ฉลาดชาย

อานั

นท์ และสัณฐิ

ตา (2536) เรื่

อง “

ป่าชุมชนภาคเหนือ: ศักยภาพขององค์กร

ชาวบ้านในการจัดการป่าชุมชน

” ในงานดั

งกล่

าวผู้

เขี

ยนได้

ค้

นพบว่

า ชุ

มชนในป่