Previous Page  48 / 238 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 48 / 238 Next Page
Page Background

งานวิจัยวัฒนธรรมภาคกลาง

47

แม้

กระแสความคิ

ดดั

งกล่

าวจะมี

ที่

มาในบริ

บทของสั

งคมไทยอยู่

แล้

ว แต่

ก็

สอดรั

บกั

บกระแสที่

เกิ

ดขึ้

นในสั

งคมตะวั

นตกด้

วยเช่

นกั

น เพราะคล้

องจองกั

บความคิ

ของนักมานุ

ษยวิ

ทยาชาวอเมริ

กั

นชื่

อ Robert Redfield (1897-1958) ซึ่

งเสนอให้

นั

กมานุษยวิทยาศึกษาสังคมชาวบ้านเพิ่มเติมจากที่เคยเน้นศึกษาแต่สังคมชุมชน

บุ

พกาล โดยตั้

งข้

อสั

งเกตว่

ามี

ความตึ

งเครี

ยดแฝงอยู่

ระหว่

างวั

ฒนธรรมหลวง (Great

Tradition) ของสั

งคมรั

ฐที่

ซั

บซ้อน กั

บวั

ฒนธรรมท้องถิ่

น (Little Tradition) ของชุ

มชน

ชาวบ้

าน (Peasant Community) เพราะวั

ฒนธรรมหลวงก�ำลั

งพยายามขยายอิ

ทธิ

พล

ครอบง�

ำวั

ฒนธรรมชาวบ้านอยู่ตลอดเวลา

ในบริ

บทของกระแสการเผชิ

ญหน้

ากั

น ระหว่

างวั

ฒนธรรมหลวงและ

วั

ฒนธรรมชาวบ้

านนี้

เอง ที่

ผลั

กดั

นให้

เกิ

ดการค้

นคว้

าวิ

จั

ยอย่

างต่

อเนื่

อง ในงานของ

นั

กวิ

จั

ยวั

ฒนธรรมท้องถิ่

นคนส�

ำคั

ญ คื

อ ศรี

ศั

กร วั

ลลิ

โภดม ผู้ซึ่

งน�

ำวิ

ชาโบราณคดี

และมิ

ติ

ทางประวั

ติ

ศาสตร์

มาช่

วยในการศึ

กษาชี

วิ

ตวั

ฒนธรรมของชุ

มชนชาวบ้

าน

โดยเฉพาะในภาคอี

สาน จนสามารถอธิ

บายความเคลื่

อนไหวและศั

กยภาพของ

วั

ฒนธรรมในด้

านการผลิ

ตและการด�

ำรงชี

พ บนพื้

นฐานความเชื่

อและความสั

มพั

นธ์

ร่

วมกั

น ของกลุ

มชนหลากหลายชาติ

พั

นธุ

ที่

ช่

วยให้

ท้

องถิ่

นสามารถปรั

บตั

วกั

การเปลี่

ยนแปลงของระบบนิ

เวศ ในช่

วงเวลาต่

างๆ ที่

ผ่

านมาในประวั

ติ

ศาสตร์

ดั

งจะเห็

นได้ชั

ดเจนในหนั

งสื

อเรื่

อง “

แอ่งอารยธรรมอีสาน

” (2533)

กลุ่มศึกษาวัฒนธรรมท้องถิ่นเช่นนี้มีลักษณะร่วมกันหลายประการด้วยกัน

เริ่

มตั้

งแต่

มี

ความเข้

าใจวั

ฒนธรรมคล้

ายคลึ

งกั

น และแตกต่

างจากลุ

มศึ

กษาแรก

อย่างชั

ดเจน กล่าวคื

อ แทนที่

จะเข้าใจว่าวั

ฒนธรรมเป็นคุ

ณค่าพื้

นฐานดั้

งเดิ

ม หรื

เป็

นรากเหง้

าของกลุ

มชน ที่

สามารถด�

ำรงอยู่

ได้

อย่

างมั่

นคงและไม่

เปลี่

ยนแปลง

ก็

จะหั

นมามองว่

วัฒนธรรมเป็นส�ำนึกร่วมกัน

ที่

ยึ

ดโยงอยู่

กั

บโครงสร้

างและ

ความสั

มพั

นธ์

ทางสั

งคม ซึ่

งช่

วยผนึ

กให้

ส่

วนต่

างๆ ของสั

งคมอยู่

รวมกั

นได้

อย่

างเป็

ระบบและกลมกลืน ความเข้

าใจวัฒนธรรมเช่

นนี้ยังมีส่

วนอย่

างส�

ำคัญในการมอง

วั

ฒนธรรมในฐานะที่

เป็

กลไกทางสังคม

ซึ่

งเห็

นอย่

างชั

ดเจนจากหนั

งสื

อของพั

ทยา

สายหู เรื่

อง “ความเข้าใจเกี่

ยวกั

บกลไกทางสั

งคม” (พั

ทยา 2516)