งานวิจัยวัฒนธรรมภาคกลาง
45
ในช่
วงระหว่
างปี
พ.ศ.2480-2510 เช่
น ส. (แสน) ธรรมยศ ชาวล�
ำปาง ผู้
เป็
น
บรรณาธิ
การวารสาร โยนก และสงวน โชติ
สุ
ขรั
ตน์
ซึ่
งรวบรวมและจั
ดพิ
มพ์
ประเพณี
และต�
ำนานท้
องถิ่
นต่
างๆ จ�
ำนวนมาก เป็
นต้
น แต่
ผู้
ที่
มี
ผลงานโดดเด่
นในการรวบรวม
วั
ฒนธรรมประเพณี
ของกลุ่
มชาติ
พั
นธุ์
ต่
างๆ ก็
คื
อ บุ
ญช่
วย ศรี
สวั
สดิ์
ซึ่
งเขี
ยนหนั
งสื
อ
เรื่อง “
30 ชาติในเชียงราย
” (2493) และหนั
งสือเกี่ยวกับวัฒนธรรมท้องถิ่นของ
ชาวไทยนอกประเทศอี
กจ�
ำนวนหนึ่
ง ผลงานเหล่
านี้
บ่
งบอกถึ
งความเข้
าใจวั
ฒนธรรม
ว่
า มี
ลั
กษณะเป็
น “ความรู้
สึ
กนึ
กคิ
ดร่
วมกั
น” ของผู้
คนในท้
องถิ่
น ที่
สั
มพั
นธ์
เชื่
อมโยง
อยู่กั
บสั
งคม ในเชิ
งที่
อาจจะเรี
ยกได้ว่ามี
“หน้าที่
” ในการธ�
ำรงรั
กษาความต่อเนื่
อง
ด้วยการแก้ไขวิ
กฤตการณ์ต่างๆ ในชี
วิ
ตของผู้คนในสั
งคม
งานของจิ
ตร ภูมิ
ศั
กดิ์
(2519) ก็
อาจจะจั
ดอยู่
ในกลุ
่
มนี้
ด้
วย โดยเฉพาะหนั
งสื
อ
เรื่
อง “
ความเป็นมาของค�ำสยาม ไทย ลาวและขอม
” ซึ่
งเน้
นลั
กษณะร่
วม
ของกลุ่
มชาติพั
นธุ
์
ต่
างๆ ในฐานะเป็
นพลั
งส�ำคั
ญของแต่
ละกลุ
่
ม ที่
เป็
นพื้
นฐานใน
การจั
ดความสั
มพั
นธ์
กั
บกลุ
่
มอื่
นๆ อย่
างซับซ้
อน จิ
ตรจะให้
ความส�
ำคั
ญกับความ
หลากหลายทางวั
ฒธรรม และการผสมผสานของกลุ
่
มชาติ
พั
นธุ
์
ต่
างๆ ท�
ำนองเดี
ยวกั
น
กั
บงานของบุ
ญช่
วย แต่
แทนที่
จะศึ
กษาด้
วยจารี
ตท้
องถิ่
นล้
วนๆ จิ
ตรจะเริ่
มน�ำความคิ
ด
ต่
างประเทศมาผสมผสานบ้
าง ด้
วยการอ้
างอิ
งงานของชาวต่
างประเทศ เช่
น Bernatzik
(1958) เป็นต้น
แม้
ว่
าแรงจูงใจในการศึกษาวั
ฒนธรรมท้
องถิ่
นและชาติ
พั
นธุ
์
ต่
างๆ แรกเริ่ม
อาจจะต้
องการเผยแพร่
ประเพณี
ของตนเองให้
คนถิ่
นอื่
นได้
รู้
จั
ก แต่
ก็
อาจจะแฝง
ความต้
องการที่
จะชี้
ให้
เห็
นถึ
งความแตกต่
างและการขั
ดกั
นกั
บวั
ฒนธรรมชาติ
ที่
ก�ำลั
ง
ขยายอิ
ทธิ
พลเข้
ามามากขึ้
นจากส่
วนกลางอยู่
ด้
วย ขณะที่
วั
ฒนธรรมชาติ
จะเน้
นความ
เป็
นอั
นหนึ่
งอั
นเดี
ยวกั
นของประชากร วั
ฒนธรรมท้
องถิ่
นจะเน้
นถึ
งการอยู่
ร่
วมกั
น
ของความหลากหลายทางวั
ฒนธรรม ที่
ประกอบไปด้วยกลุ่มคนต่างชาติ
พั
นธุ์
จารี
ตของการศึ
กษากลุ
่
มชาติ
พั
นธุ
์
ในท้
องถิ่
นดั
งกล่
าว นั
บว่
าแตกต่
างจาก
จารี
ตเดิ
มที่
เคยมี
อยู่ในสั
งคมไทยก่อนหน้านั้
น (ก่อนปี พ.ศ.2480) ซึ่
งมั
กจะอยู่ในรูป
ของบั
นทึ
กการเดิ
นทางของกลุ่
มชนชั้
นน�
ำในส่
วนกลาง ที่
ท่
องเที่
ยวไปในดิ
นแดนส่
วน