Previous Page  212 / 238 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 212 / 238 Next Page
Page Background

งานวิจัยวัฒนธรรมภาคกลาง

211

ที่หนึ่

ง การศึกษาความรู้ในทางนิเวศวิทยาของกลุ่มชนเหล่านี้เพื่อสนับสนุ

นให้เกิด

ทางเลื

อกใหม่

ในการพั

ฒนาสั

งคมที่

ยอมรั

บความหลากหลายของกลุ

มวั

ฒนธรรม

และเป็นอิสระจากการครอบง�

ำของรัฐและกลุ่

มผลประโยชน์นอกชุมชน พร้

อมกับ

รั

กษาความสั

มพั

นธ์

ที่

เสมอภาคระหว่

างระบบทุ

นนิ

ยมและชุ

มชนที่

ผ่

านมาทาง

นโยบายรั

ฐและระบบเศรษฐกิ

จแผนใหม่

ประการที่

สองมี

เป้

าหมายเพื่

อสนั

บสนุ

ให้

เกิ

ดทางเลื

อกใหม่

ในการแก้

ปั

ญหาวิ

กฤตการณ์

ของทรั

พยากรธรรมชาติ

ที่

ส่

วนหนึ่

สื

บเนื่

องจากการพัฒนาองค์ความรู้สมั

ยใหม่ (อ้างจากแหล่งเดี

ยวกั

น)

จากแนวคิดข้างต้นแม้จะมีจุดเริ่มต้นมาจากการศึกษาองค์ความรู้ของกลุ่ม

ชาติ

พั

นธุ์

หากแต่

มี

พื้

นฐานมาจากการยอมรั

บและเคารพความแตกต่

างหลากหลาย

และการยอมรับว่

าองค์

ความรู้

ใดเพียงแบบเดียวอาจมีข้

อจ�

ำกัดและไม่

สามารถน�

มาใช้

กั

บทุ

กพื้

นที่

ได้

เสมอไป และประเด็

นส�

ำคั

ญคื

อการให้

ความสนใจกั

บวั

ฒนธรรม

และด�

ำรงอยู่

อย่

างแท้

จริ

งของชุ

มชนท้

องถิ่

นโดยการยอมรั

บการมี

ตั

วตน มี

วิ

ถี

ชี

วิ

มี

วิ

ธี

ท�

ำความเข้

าใจโลกและสิ่

งแวดล้

อม เนื่

องจากการพั

ฒนาที่

ผ่

านมามิ

ได้

ใส่

ใจ

ต่

อชุ

มชนท้

องถิ่

นที่

หลากหลาย ในปั

จจุ

บั

นหลายชุ

มชนไม่

ยิ

นยอมต่

อการสร้

าง

ความเปลี่

ยนแปลงที่

พวกเขาไม่

มี

ความมั่

นใจ ว่

าจะเกิ

ดผลกระทบต่

อการด�ำรงอยู่

ของ

พวกเขาอย่

างไร หรื

อเราเรี

ยกขบวนการเหล่

านี้

ว่

าการเคลื่

อนไหวทางสั

งคมแบบใหม่

(new social movement)

นอกจากนี้

ยั

งมี

แนวคิ

ดนิ

เวศวิ

ทยาการเมื

องที่

ปรากฏในงานศึ

กษาประเด็

การเคลื่อนไหวด้

านสิ่งแวดล้

อมในภาคกลางระยะช่วง 4-5 ปี

โดยเฉพาะประเด็น

โครงการก่

อสร้

างที่

ส่

งผลกระทบต่

อชุ

มชนท้

องถิ่

น การศึ

กษาโดยใช้

กรอบคิ

ดั

งกล่

าวได้

สะท้

อนประเด็

นการจั

ดการทรั

พยากรที่

ไม่

ได้

เกี่

ยวข้

องกั

บการจั

ดการ

ทางภายภาพผ่

านองค์

ความรู้

เชิ

งเทคนิ

คเพี

ยงอย่

างเดี

ยวหากแต่

มี

ความเกี่

ยวโยง

อย่างส�

ำคั

ญกั

บเศรษฐกิ

จและการเมื

อง ดั

งที่

Schmink and Wood (1987) กล่าวถึ

แนวคิ

ดนิ

เวศวิ

ทยาการเมื

องว่า “เป็นการแสดงให้เห็

นว่ากระบวนการเศรษฐกิ

จและ

การเมื

องไปมี

ส่

วนก�ำหนดรูปแบบการใช้

ประโยชน์

จากทรั

พยากรธรรมชาติ

อย่

างไร”

(ชูศั

กดิ์

วิ

ทยาภั

ค อ้

างในฉั

ตรทิ

พย์

นาถุ

สภาและคณะ, 2543) เช่

นปรากฏในงานศึ

กษา