204
ถกเถียงวัฒนธรรม
ที่
เกิ
ดจากการมี
นั
กท่
องเที่
ยวจ�
ำนวนมากเดิ
นเข้
ามาสู่
ชุ
มชนและปั
ญหาต่
างๆ เช่
น
ความสกปรก ขยะมูลฝอย ปั
ญหาอาชญากรรม ความขั
ดแย้
งด้
านผลประโยชน์
ของ
กลุ่มต่างๆ การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม และวิถีชีวิต อย่างไรก็ตาม
การท่
องเที่
ยวอาจเป็
นอี
กสิ่
งหนึ่งเช่
นกั
น ที่
ช่
วยให้
อั
ตลั
กษณ์
ทางวั
ฒนธรรมของ
ท้
องถิ่
นในหลายๆ ด้
านยั
งคงด�ำรงอยู่
ได้
เพื่
อตอบสนองต่
อนั
กท่
องเที่
ยว เช่
น วิ
ถี
ชี
วิ
ต
สภาพแวดล้
อม ประเพณี
พิ
ธี
กรรม ซึ่
งการศึ
กษาเพื่
อเปรี
ยบเที
ยบผลกระทบที่
เกิ
ดขึ้
น
จากการพัฒนาการท่องเที่ยวทั้ง 2 ด้านนี้
ควรจะได้มีการด�
ำเนิ
นเพิ่มเติมต่อไปเพื่อ
ให้ประเด็
นมี
ความชั
ดเจนมากขึ้
น
ในการศึ
กษาเกี่
ยวกั
บพั
ฒนาการของวั
ฒนธรรมท้
องถิ่
นกั
บการพั
ฒนาการ
ท่องเที่ยวนั้
นเราอาจพบลักษณะร่วมบางประการของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับ
ชุ
มชนท้องถิ่
น โดยแบ่งออกเป็นระดั
บช่วงเวลาได้ดั
งนี้
1. ช่วงก่อนเข้าสู่ยุ
คแห่งการพั
ฒนา
2. ช่วงยุ
คแห่งการเปลี่
ยนแปลง
3. ช่วงการพั
ฒนาเข้าสู่ตลาดการท่องเที่
ยว
4. แนวโน้มในอนาคต
ลั
กษณะร่
วมของชุ
มชนภาคกลางในช่
วงก่
อนยุ
คการพั
ฒนา (ประมาณ
ช่
วงก่
อนสงครามโลกครั้
งที่
2) ที่
มี
การศึ
กษาทั้งจากข้
อมูลเอกสารและข้
อมูลจาก
ค�
ำบอกเล่
าของผู้
ให้
ข้
อมูลแสดงพื้
นฐานร่
วมกั
นของการเป็
นชุ
มชนเกษตรกรรม
ที่
สามารถพึ่
งพาตนเองได้
เช่
น การเพาะปลูก เลี้
ยงสั
ตว์
ประมงพื้
นบ้
าน โดย
ภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นปัจจัยส�
ำคัญที่มีบทบาทต่อวิถีชีวิตประจ�
ำวันทั้งนี้ กิจกรรม
ทางเศรษฐกิจ ประเพณี พิธีกรรมท้
องถิ่นและความเชื่อทางพุทธศาสนาท�
ำหน้าที่
เป็
นแกนหลั
กของความสั
มพั
นธ์
ระหว่
างสมาชิ
กภายในชุ
มชน การเปลี่
ยนแปลง
ทางสั
งคมวั
ฒนธรรมอาจเกิ
ดขึ้
นจากการติ
ดต่
อกั
บชุ
มชนภายนอกโดยผ่
านการ
ค้าขายเป็นส่วนใหญ่ ส่งผลให้เกิดการรับและผสมผสานวัฒนธรรมจากต่างถิ่นที่มี
ความแตกต่
างออกไปเช่
น วั
ฒนธรรมจี
น หรื
อมอญ เข้
ามาเป็
นส่
วนหนึ่
งของ
ชี
วิ
ตประจ�ำวั
นในด้านความเชื่
อ ทั
ศนคติ
พิ
ธี
กรรม เป็นต้น โดยที่
การเปลี่
ยนแปลง