งานวิจัยวัฒนธรรมภาคกลาง
157
จากกลุ
่
มอื่
นๆ และพิ
จารณาวั
ฒนธรรมในฐานะที่
เป็
นสั
ญลั
กษณ์
จ�ำแนกตั
วเองว่
าเป็
น
สมาชิ
กของกลุ่มชาติ
พั
นธุ์ใด ตลอดจนศึ
กษาความสั
มพั
นธ์ที่
มี
กั
บกลุ่มชาติ
พั
นธุ์อื่
น
และความหมายของชาติ
พั
นธุ
์
ในกระบวนการก่
อตั
วเป็
นรั
ฐและการต่
อต้
านรั
ฐแล้
วรวม
ได้เพี
ยง 25 งานเท่านั้
น ซึ่
งนั
บว่าน้อยมาก เมื่
อเที
ยบกั
บงานทั้
งหมดไม่ถึ
งร้อยละ 2
และที่
เป็นเรื่
องชาติ
พั
นธุ์กั
บรั
ฐมี
เพี
ยง 2 เรื่
องไม่ถึ
งร้อยละ 1 ของงานทั้
งหมด
อย่
างไรก็
ตาม ผู้
เขี
ยนได้
คงประเด็
นนี้
ไว้
เพื่
อแสดงให้
เห็
นสถานภาพงาน
ศึกษาเชิงชาติพันธุ์ในภาคกลางว่
าเป็
นเช่นไร เพราะในปั
จจุบันการแสดงหาความ
รู้เชิงชาติพั
นธุ์
ได้
พัฒนาไปสู่
ค�ำถามในเรื่องความสัมพั
นธ์ระหว่
างความเป็
นรั
ฐและ
ความเป็
นชาติ
พั
นธุ
์
แล้
ว การศึ
กษาเชิ
งชาติ
พั
นธุ
์
ในภาคกลางอาจจะค่
อนข้
างพั
ฒนาช้
า
ด้วยเงื่
อนไขเกี่
ยวกั
บลั
กษณะและประวั
ติ
ศาสตร์ความหลากหลายทางชาติ
พั
นธุ์เอง
งานของปราณี
วงษ์
เทศ (2531) ท�
ำให้
เราพอมองเห็
นภาพว่
าลาวพวนใน
ชุ
มชนที่
ศึ
กษามี
ประเพณี
บอกเล่
าที่
ท�ำให้
สมาชิ
กชุ
มชนได้
เรี
ยนรู้
ความเป็
นลาวร่
วมกั
น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพิธีกรรมในการสืบทอดชาดก กลายเป็นสัญลักษณ์ส�
ำคัญของ
ความเป็
นลาว สนิ
ท สมั
ครการ (Snit Smuckarn 1972) ได้
ศึ
กษาเปรี
ยบเที
ยบชุ
มชนพวน
2 ชุ
มชน ที่
บ้านหมี่
จ.ลพบุ
รี
ซึ่
งแสดงจิ
ตส�ำนึ
กทางชาติ
พั
นธุ์ไม่เหมื
อนกั
น ลาวพวน
ที่
บางกระพี้
มองว่
าตั
วเองเป็
น “ไทย” สมบูรณ์
แต่
ที่
บ้
านเซ่
ามี
ความหลากหลาย
ในเรื่
องจิ
ตส�
ำนึ
กอั
ตลั
กษณ์ชาติ
พั
นธุ์ คื
อร้อยละ 5 ว่าเป็นลาว ร้อยละ 66 ระบุ
ว่า
เป็นไทย แต่ร้อยละ 26 มองว่าตนเองเป็นพวน ในอี
กงานหนึ่
ง ปิยะพร วามะสิ
งห์
(2538) ซึ่
งศึ
กษาลาวพวนที่
ปากพลี
จ.นครนายก ชี้
ให้
เห็
นว่
าอั
ตลั
กษณ์
ชาติ
พั
นธุ์
ของ
พวนได้ก่อตัวจากการที่ถูกอพยพมาโดยไม่สมัครใจ และในระยะแรกเริ่มถูกบังคับ
ให้อยู่ในพื้
นที่
เดี
ยวกั
น ถูกสอดส่องโดยรั
ฐไทยและถูกเหยี
ยดหยามโดยคนไทย จึ
งมี
ความทรงจ�
ำซึ่
งสื
บทอดผ่านเพลงกล่อมเด็
กที่
ผูกพั
นกั
บท้องถิ่
นเดิ
ม และการปฏิ
บั
ติ
ตามประเพณี
ร่
วมกั
นที่
แตกต่
างจากคนไทย แต่
เมื่
อกาลเวลาผ่
านไป มี
การติ
ดต่
อกั
บ
คนไทยและมี
การแต่งงานข้ามกลุ่มกั
นมากขึ้
น ท�
ำให้ในปัจจุ
บั
นอั
ตลั
กษณ์ชาติ
พั
นธุ์
มี
ลั
กษณะทั
บซ้
อนระหว่
างการเป็
นไทยและการเป็
นพวน ความเป็
นพวนได้
ท�
ำให้
เกิ
ด
ความผูกพั
นระหว่
างพวนที่
ต่
างถิ่
นกั
นและก่
อให้
เกิ
ดความร่
วมมื
อ ส่
วนความเป็
น