126
ถกเถียงวัฒนธรรม
ที่
ให้ความส�
ำคั
ญกั
บการท�
ำนาซึ่
งมี
3 แบบคื
อ “นาโคะ” (นาป่า) “นาตง” (นาลุ่ม)
และ “นาลาง” (นาลุ
่
มมี
น�้
ำขั
งมาก) ซึ่
งในทั
ศนะลาวโซ่
งนาตงเป็
นนาที่
ดี
ที่
สุ
ด
กระบวนการท�ำนาของลาวโซ่งคล้
ายคลึงกับชาวนาไทยภาคกลางทั่วไป ที่เปลี่ยน
จากการไถด้วยวั
วควาย เป็นรถไถเดิ
นตามตั้
งแต่ประมาณปี
พ.ศ.2525 ด้วยเงื่
อนไข
ที่
ซั
บซ้อน คื
อ ความรวดเร็
ว ไม่ต้องระวั
งการขโมยวั
วควาย และสามารถท�
ำนาให้
เสร็จทันเพื่อนๆ รอบข้างที่อาจใช้รถไถไปก่อนแล้ว ข้อที่น่าสังเกตจากงานศึกษานี้
คื
อ ลั
กษณะการท�
ำนาจะขึ้
นอยู่
กั
บลั
กษณะพื้
นที่
ของชุ
มชนซึ่
งมี
2 ระบบนิ
เวศ
คื
อ ฝั
่
งภูเขาซึ่
งดิ
นเป็
นประเภท “เขาย้
อย” มี
สี
แดงแบบลูกรั
งกั
บอี
กฝั
่
งเป็
นที่
ลุ
่
ม
ดิ
นเหนี
ยวสี
ค่อนข้างด�
ำ
จากงานหลายงานที่
เขี
ยนเกี่
ยวกั
บลาวโซ่
งในท้
องถิ่
นต่
างๆ นอกเหนื
อจาก
“หนองเลา” หรื
อ “หนองปรง” ที่
กล่าวถึ
งข้างบนนี้
ชุ
มชนลาวโซ่งตั้
งอยู่ในพื้
นที่
ที่
มี
ลั
กษณะทรั
พยากรหลากหลายกว่
าชุ
มชนลาวพวน ซึ่
งมั
กจะอยู่
ใกล้
ล�
ำน�้
ำและในที่
ลุ
่
ม
อย่างเช่น ชุมชนลาวโซ่งที่หนองปรงเองมีพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างที่ดอนและที่ลุ่มมี
ภูเขาและป่าโปร่งๆ และมักจะอาศัยน�้
ำห้วยน�้ำซับมากกว่าล�ำน�้ำ ซึ่งเป็นลักษณะ
ที่
อาจกล่
าวได้
ว่
าเป็
นถิ่
นฐานและทรั
พยากรแบบฉบั
บตามอุ
ดมคติ
ลาวโซ่
งที่
คิ
ดว่
า
ใกล้
เคี
ยงกั
บเมื
องแถงที่
เป็
นถิ่
นฐานเดิ
ม (ฉวี
วรรณ ประจวบเหมาะ และวรานั
นท์
วรวิ
ศร์
2543) ข้
อมูลที่
เกี่
ยวกั
บชุ
มชนบ้
านสระ ก�ำแพงแสน นครปฐม ดูว่
าจะมี
ความคล้ายกั
น แต่ชุ
มชนเกาะแรด จ.นครปฐม มี
คลองบางปลาไหล ไหลผ่านลงสู่
แม่น�้
ำท่าจี
น มี
ทรั
พยากรแบบที่
ราบลุ่ม (นุ
กูล ชมพูนิ
ช 2538) จากหลั
กฐานที่
มี
อยู่
ดูเหมือนว่าชุมชนลาวโซ่งอยู่ในพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางทรัพยากรธรรมชาติ
มากกว่าชุมชนลาวพวน และถึงแม้จะท�
ำนาเป็นหลัก การเก็บของป่าและจับปลา
นั
บว่าเป็นกิ
จกรรมเศรษฐกิ
จที่
ผสมผสานอย่างส�
ำคั
ญของลาวโซ่ง
งานวิ
จั
ยอื่
นๆ ไม่
ได้
กล่
าวถึ
งการใช้
ผลผลิ
ตโดยเฉพาะผลผลิ
ตที่
เป็
นข้
าว
ยกเว้นงานของฉวีวรรณ ประจวบเหมาะ และวรานั
นท์ วรดิศว์ (2543) ซึ่งได้ระบุ
ว่าชาวนาลาวโซ่งที่
“หนองเลา” ท�ำนาทั้
งนาปรั
งและนาปี เพราะเป็นพื้
นที่
ที่
มี
การ
จั
ดการชลประทาน แต่ไม่นิ
ยมเก็
บข้าวนาปรั
งไว้บริ
โภค เพราะว่ากิ
นไม่อร่อย จะรี
บ