งานวิจัยวัฒนธรรมภาคกลาง
121
มี
ความคล้
ายคลึ
งกั
น คื
อ ส่
วนใหญ่
ท�
ำการเกษตรกรรม เช่
นท�
ำนาแต่
อาจมี
อาชี
พเสริ
ม
แตกต่
างกั
นบ้
างเช่
น ปลูกผั
กหรื
อปลูกไผ่
รั
บจ้
าง และค้
าขาย ในบางแห่
ง เช่
น
บ้านหมี่
มี
การทอผ้าเป็นอาชี
พส�
ำคั
ญด้วย
งานศึ
กษา “ชุ
มชนพวน” ที่
หิ
นปั
ก อ.บ้
านหมี่
จ.ลพบุ
รี
(เกรี
ยงศั
กดิ์
อ่
อนละมั
ย
2540) สะท้อนภาพดั
งกล่าวนี้
คื
อ ประมาณครึ่
งหนึ่
งของจ�
ำนวนครั
วเรื
อน (46.8%)
ในชุ
มชนประกอบอาชีพท�ำนา ส่
วนสัดส่
วนของครัวเรื
อนที่
รับจ้
างและทอผ้
าอยู่
ใน
อั
นดั
บรองๆ ลงมา (22% และ 14.3% ตามล�
ำดั
บ) ลั
กษณะที่
มี
ร่วมกั
บชุ
มชนชาวนา
ไทยอื่
นๆ ในภาคกลาง คื
อ มี
การกู้
ยื
มเงิ
นในสั
ดส่
วนที่
สูงมากถึ
ง 18% จากแหล่
งเงิ
น
ที่
หลากหลายคื
อ ธกส. ธนาคารพาณิ
ชย์ และนายทุ
นท้องถิ่
น เป็นต้น
ในการที่
จะเข้าใจการด�
ำรงอยู่ของชุ
มชน ประเด็
นเรื่
องการจั
ดระเบี
ยบสั
งคม
และการเมื
องมี
ความส�
ำคั
ญเป็
นอย่
างมาก เพราะเป็
นเรื่
องราวที่
เกี่
ยวกั
บความสั
มพั
นธ์
ระหว่
างบุ
คคลและกลุ
่
มบุ
คคลในชุ
มชน ซึ่
งท�
ำให้
ชุ
มชนด�
ำรงอยู่
ได้
ในลั
กษณะใด
ลั
กษณะหนึ่
ง ในการศึ
กษาทางชาติ
พั
นธุ์วรรณาดั้
งเดิ
มในมานุ
ษยวิ
ทยา การศึ
กษา
การจั
ดระเบี
ยบสั
งคมและการเมื
องเป็
นประเด็
นความสนใจหลั
กของนั
กมานุ
ษยวิ
ทยา
ที่
ศึ
กษาสั
งคมหรื
อชุ
มชนขนาดเล็
ก ที่
มี
ความหลากหลายทางสั
งคมน้อย ประเด็
นที่
นั
กมานุษยวิทยาสนใจวิเคราะห์ คือ เรื่องลักษณะครอบครัว การแต่งงาน ระบบ
เครื
อญาติ
และระบบการรวมกลุ
่
มท�
ำกิ
จกรรมต่
างๆ เช่
น กิ
จกรรมทางเศรษฐกิ
จ
หรื
อ พิ
ธี
กรรม และเมื่
อนักมานุ
ษยวิ
ทยาศึ
กษาชุ
มชนที่
มี
ความหลากหลายและ
ซั
บซ้อนทางสั
งคมมากขึ้
น ก็
ต้องเพิ่
มมิ
ติ
ต่างๆ ในการวิ
เคราะห์อย่างเช่น การศึ
กษา
โครงสร้
างสั
งคมของชุ
มชนชาวนาไทยในหมู่
บ้
าน “เชี
ยงใหม่
” ของ Jack Potter (1976)
ซึ่
งศึ
กษากลุ
่
มสั
งคมต่
างๆ ที่
ท�
ำหน้
าที่
ต่
างๆ กั
นในหมู่
บ้
าน และท�
ำให้
บุ
คคลหรื
อ
ครั
วเรื
อนต่
างๆ ได้
มี
กิ
จกรรมร่
วมกั
น นอกจากนี้
มี
การศึ
กษาความแตกต่
างทางสั
งคม
ในเชิ
งชนชั้
น ที่
ท�
ำให้
เห็
นสถานภาพของบุ
คคลหรื
อกลุ
่
มบุ
คคลที่
ไม่
เท่
าเที
ยมกั
น
รวมทั้
งความสั
มพั
นธ์
ของบุ
คคลหรื
อกลุ่
มบุ
คคลเหล่
านี้
การศึ
กษาลั
กษณะครอบครั
ว
ระบบเครื
อญาติ
และพฤติ
กรรมความสั
มพั
นธ์
ของสมาชิ
กในชุ
มชน ก็
เป็
นอี
กเรื่
องหนึ่
ง
ที่
นั
กมานุ
ษยวิ
ทยาให้
ความส�
ำคั
ญ แต่
นั
กวิ
จั
ยส่
วนใหญ่
ที่
ศึ
กษา “ลาวพวน”