Previous Page  108 / 238 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 108 / 238 Next Page
Page Background

งานวิจัยวัฒนธรรมภาคกลาง

107

คนอื่

นว่าต่างกลุ่มกั

น ในแง่นี้

ความเป็นกลุ่มชาติ

พั

นธุ์เปรี

ยบเสมื

อนสถานภาพอื่

นๆ

ในสั

งคมเช่น เพศสภาพ ชนชั้

น วั

ยวุ

ฒิ

หรื

อถิ่

นฐานที่

อยู่ ที่

กลายเป็นเครื่

องหมาย

บ่

งบอกมาตรฐานการปฏิ

สั

มพั

นธ์

ที่

จะท�

ำให้

รู้

ว่

าคู่

ปฏิ

สั

มพั

นธ์

ควรจะถื

อปฏิ

บั

ติ

อย่

างไรต่

อกั

นอย่

างเหมาะสม ตามความคิ

ดนี้

สิ่

งที่

จะมี

ความส�

ำคั

ญในการศึ

กษา

ทางชาติ

พั

นธุ์

จึ

งน่

าจะเป็

นกระบวนการระบุ

อั

ตลั

กษณ์

ชาติ

พั

นธุ์

เอกลั

กษณ์

ชาติ

พั

นธุ์

(ethnic category) และพรมแดนชาติ

พั

นธุ

ในการปฏิ

สั

มพั

นธ์

ระหว่

างปั

จเจกบุ

คคล

ที่

ต่

างกลุ

มชาติ

พั

นธุ

กั

น ข้

อสั

งเกตของเขาก็

คื

อว่

า พรมแดนชาติ

พั

นธุ

อาจด�ำรง

อยู่

ได้

แม้

ว่

าจะมี

การปฏิ

สั

มพั

นธ์

ข้

ามกลุ

มชาติ

พั

นธุ

กั

นอยู่

เสมอ และแม้

ว่

าจะมี

การเปลี่

ยนแปลงทางวั

ฒนธรรมไปในทางที่

ใกล้

เคี

ยงกั

น กรณีงานศึ

กษา “ลื้

อ”

ของ Moerman เป็

นตั

วอย่

างที่

ชั

ดเจนชี้

ให้

เห็

นว่

าจิ

ตส�

ำนึ

กมี

ความส�

ำคั

ญต่

อการนิ

ยาม

ความเป็

นชาติ

พั

นธุ์

แต่

ส�

ำหรั

บ Barth แล้

ว เขาให้

ความสนใจกั

บการแสดงอั

ตลั

กษณ์

ชาติ

พั

นธุ์

ในการปฏิ

สั

มพั

นธ์

มากกว่

าสนใจความเป็

นกลุ่

มชาติ

พั

นธุ์

อย่

างในกรณี

ของ

Moerman นอกจากแนวคิดของ Barth แล้วยังมีแนวคิดของนั

กมานุษยวิทยาและ

นั

กสั

งคมศาสตร์

อื่

นๆ อี

กมากมายอย่

างเช่

น Abner Cohen (1974) ซึ่

งยั

งให้

ความส�

ำคั

กั

บเกณฑ์

เชิ

งวั

ตถุ

วิ

สั

ยอยู่

พอสมควรในความพยายามที่

จะปรั

บปรุ

งความหมาย

ของกลุ

มชาติ

พั

นธุ

ให้

รั

ดกุ

มขึ้

นโดยก�

ำหนดว่

า “กลุ

มชาติ

พั

นธุ

” คื

อ กลุ

มชนที่

มี

แบบแผนพฤติ

กรรมทางวั

ฒนธรรมร่วมกั

น และเป็นส่วนหนึ่

งของสั

งคมใหญ่ ท�

ำให้

มี

การปฏิ

สั

มพั

นธ์

กั

บกลุ่

มชาติ

พั

นพั

นธุ์

อื่

นๆ ที่

อยู่

ร่

วมระบบสั

งคมเดี

ยวกั

น นั

ยยะของ

ความหมายนี้

ก็

คื

อกลุ

มชาติ

พั

นธุ

จะต้

องอยู่

ร่

วมระบบสั

งคมเดี

ยวกั

น และแนวคิ

ในการจ�ำแนกกลุ่มชาติ

พั

นธุ์ของ Cohen ก็

ยั

งมี

ลั

กษณะให้ความส�

ำคั

ญกั

บเกณฑ์ที่

เป็

นวั

ตถุ

วิ

สั

ยอย่

างเช่

นแบบแผนทางวั

ฒนธรรมที่

คนนอก (อย่

างเช่

นนั

กมานุ

ษยวิ

ทยา)

ได้สั

งเกตเห็

น (ฉวี

วรรณ ประจวบเหมาะ 2525) และถึ

งแม้จะให้ความสนใจกั

บการ

ปฏิสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์เหมือนกับ Barth แต่มีจุดต่างที่ว่าให้ความสนใจ

ปั

จเจกบุ

คคลน้

อยกว่

า และเน้

นการวิ

เคราะห์

ความเป็

นกลุ

มหรื

อการจั

ดระเบี

ยบสั

งคม

ภายในกลุ่มมากกว่า (ฉวี

วรรณ ประจวบเหมาะ 2547)

ประเด็

นที่

ต้

องการชี้

ให้

เห็

นคื

อว่

าการให้

ความหมายกั

บ “กลุ

มชาติ

พั

นธุ

มี

อย่

างหลากหลาย ซึ่

งในส่

วนหนึ่

งเป็

นผลมาจากการพิ

จารณาปรากฎการณ์

ที่

ต่

างกั