72
สืบโยดสาวย่าน
อ�
ำเภอชะอวด จั
งหวั
ดนครศรี
ธรรม และศึ
กษาประวั
ติ
และผลงานด้
านการแพทย์
แผนไทยของประกอบ อุบลขาว งานวิทยานิพนธ์ที่เกี่ยวกับอาหารพื้นบ้าน ได้แก่
การศึ
กษาอาหารพื้
นบ้
านและวั
ฒนธรรมที่
ต่
อเนื่
องในอ�
ำเภอสิ
งหนคร จั
งหวั
ดสงขลา
การใช้
พื
ชผั
กพื้
นบ้
านเป็
นอาหารและเป็
นยาของชาวบ้
านอ�
ำเภอแว้
ง จั
งหวั
ดนราธิ
วาส
และศึ
กษาการผลิ
ตอาหารจากตาลโตนดของชาวบ้
านอ�
ำเภอสทิ
งพระ จั
งหวั
ดสงขลา
ส�
ำหรั
บงานวิ
ทยานิ
พนธ์
ที่
เกี่
ยวกั
บงานช่
างฝี
มื
อหรื
องานหั
ตถกรรมพื้
นบ้
าน ได้
แก่
เรื่
อง ศึ
กษาการท�
ำเรื
อพระในจั
งหวั
ดสงขลา ศึ
กษาหั
ตถกรรมเครื่
องปั
้
นดิ
นเผา
ในจั
งหวั
ดสงขลา และศึ
กษาผ้
าทอเกาะยอ อ�
ำเภอเมื
องสงขลา จั
งหวั
ดสงขลา
งานวิทยานิพนธ์ที่เกี่ยวกับประวัติบุคคล ได้แก่ ศึกษาประวัติชีวิตและผลงานของ
สมพร แซ่โค้ว และเคล้า แก้วเพชร ส่วนงานวิทยานิ
พนธ์ที่
ศึ
กษาเกี่
ยวกั
บการแสดง
พื้
นบ้าน ได้แก่ เรื่
อง โนรา : การร�ำประสมท่าแบบตั
วอ่อน ส�
ำหรั
บงานวิ
จั
ยทั่
วไป
พบว่า มี
ผู้สนใจศึ
กษาเกี่
ยวกั
บภูมิ
ปัญญาพื้
นบ้านภาคใต้ค่อนข้างน้อย ได้แก่ เรื่
อง
ภูมิปัญญาในการจัดการเครือข่ายระบบความสัมพันธ์การพึ่งพาภูมิปัญญาในการ
ด�
ำรงชี
วิ
ตตามสภาพแวดล้
อมธรรมชาติ
และสมุ
นไพร ยากลางบ้
านภูมิ
ปั
ญญาเก่
าแก่
ของภาคใต้
งานวิ
จั
ยดั
งกล่
าวนี้
รวมอยู่
ในงานวิ
จั
ยภูมิ
ปั
ญญาชาวบ้
านสี่
ภาค: วิ
ถี
ชี
วิ
ต
และกระบวนการเรี
ยนรู้
ของชาวบ้
านไทย นอกจากนี้
ยั
งมี
เรื่
อง ภูมิ
ปั
ญญาท้
องถิ่
นภาค
ใต้
ด้
านการแพทย์
จากหนั
งสื
อบุ
ด ภูมิ
ปั
ญญาชาวบ้
านภาคใต้
ในการรั
กษาบ�
ำบั
ดโรค
ศึ
กษากรณี
จั
งหวั
ด สุ
ราษฎร์
ธานี
ชุ
มพร และ ระนอง ภูมิ
ปั
ญญาด้
านการใช้
สมุ
นไพร
บ�
ำบั
ดโรคด้
วยตนเองของชาวบ้
านจั
งหวั
ดสงขลา และการศึ
กษาความเป็
นไปได้
ของ
การจั
ดตั้
งธุ
รกิ
จชุ
มชน: กรณี
ศึ
กษาผลิ
ตภั
ณฑ์พร้าหยกง้ง
งานวิ
จั
ยที่
เป็
นวิ
ทยานิ
พนธ์
แทบทุ
กเรื่
องเป็
นการศึ
กษาโดยรวบรวมความรู้
จากเอกสาร ซึ่
งมี
ผู้
ศึ
กษาไว้
แต่
เดิ
ม และจากการสั
มภาษณ์
เป็
นส่
วนใหญ่
มี
บ้
างที่
ใช้
ประสบการณ์
ตรงที่
ตนคลุ
กคลี
อยู่
มาสรุ
ปเป็
นองค์
ความรู้
โดยมี
การจั
ดจ�
ำแนกประเภท
ของเนื้
อหา มี
การศึ
กษาในระดั
บลึ
กถึ
งขั้
นการวิ
เคราะห์
และสั
งเคราะห์
ที่
แสดงถึ
งความ
เป็นพลวัตค่อนข้างน้อย มีบ้างที่เป็นการศึกษาวิเคราะห์คุณค่าแต่ค่อนข้างผิวเผิน
งานที่ศึกษาวิจัยเกือบทุกเรื่องจึงอยู่ในลักษณะที่บอกเพียงปรากฏการณ์ทางสังคม
ในช่
วงหนึ่
ง ซึ่
งส่
วนใหญ่
เมื่
อส�
ำเร็
จผลแล้
วก็
ไม่
ได้
น�
ำไปใช้
ให้
เกิ
ดการขั
บเคลื่
อนสั
งคม