42
สืบโยดสาวย่าน
พั
ฒนาการชุมชนรอบทะเลสาบสงขลา พุ
ทธศาสนาแถบลุ่มทะเลสาบสงขลา เส้น
ทางข้ามคาบสมุทรมลายูจากคลองท่อมจังหวัดกระบี่ถึงบ้านดอน และพัฒนาการ
ของชนชาติ
ไทยในมาเลเซี
ย เป็
นต้
น งานเหล่
านี้
ผู้
ศึ
กษาพยายามเจาะลึ
กช่
วย ให้
เห็
น
พั
ฒนาการในแต่
ละพื้
นที่
เด่
นชั
ด ซึ่
งมี
ประโยชน์
ต่
อการศึ
กษาภาพรวมประวั
ติ
ศาสตร์
ภาคใต้
และเป็
นบริ
บทส�
ำคั
ญของการพั
ฒนาในเวลาต่
อมา กรณี
บทความเรื่
อง
พัฒนาการชุมชนรอบทะเลสาบสงขลา (สมคิด ทองสง พิเชฐ แสงทอง และวีระ
แสงเพชร, 2536) กล่
าวถึ
งบริ
บทชุ
มชนด้
านสภาพภูมิ
ศาสตร์
ประวั
ติ
ศาสตร์
และ
โบราณคดี หลักฐานประวัติศาสตร์
และโบราณคดีได้
ช่วยยืนยันอดีตความเป็
นมา
อั
นยาวนานของชุ
มชนบริ
เวณนี้
และจากหลั
กฐานเอกสารทางประวั
ติ
ศาสตร์ และ
โบราณวั
ตถุ
โบราณสถาน ได้
บ่
งบอกถึ
งอิ
ทธิ
พลของนครศรี
ธรรมราช และเมื่
ออยุ
ธยา
ได้ปกครองหั
วเมื
องทั้
งสามก็
ได้ท�
ำนุ
บ�
ำรุ
งพุ
ทธศาสนาเป็นอย่างดี
การกั
ลปนาวั
ดใน
สมั
ยอยุ
ธยาท�
ำให้
วั
ดและพระพุ
ทธศาสนารอบทะเลสาบสงขลาเจริ
ญรุ
่
งเรื
อง มี
ความ
เข้
มแข็
งสามารถสกั
ดกั้
นการขยายตั
วของอิ
สลามได้
อย่
างไรก็
ตามบางช่
วงเวลา
อ�
ำนาจการปกครองเมื
องสงขลาและพั
ทลุ
งก็
ตกอยู่
ภายใต้
อ�
ำนาจของมุ
สลิ
ม ในสมั
ย
กรุ
งธนบุ
รี
สมเด็
จพระเจ้
าตากสิ
นได้
แต่
งตั้
งให้
ชาวจี
นที่
จงรั
กภั
กดี
ต่
อพระองค์
เป็
นเจ้
า
เมื
องสงขลา และในสมั
ยต้
นรั
ตนโกสิ
นทร์
ทั้
งเมื
องนครศรี
ธรรมราช เมื
องสงขลา และ
เมืองพัทลุงได้หมดบทบาททางการเมืองและสังคมโดยผนึ
กแน่นกับราชอาณาจักร
ไทย ผลงานบทความอีกเรื่องหนึ่
งซึ่งเกี่ยวโยงกับบทความเรื่องที่กล่าวมาแล้ว คือ
พุ
ทธศาสนาแถบลุ่
มทะเลสาบสงขลา (สุ
ธิ
วงศ์
พงศ์
ไพบูลย์
, 2523) งานชิ้
นนี้
น�
ำเสนอ
เรื่
องราวสมัยกรุ
งศรี
อยุ
ธยา โดยศึ
กษา การนั
บถื
อศาสนา การจั
ดการปกครองสงฆ์
บทบาทของสถาบั
นสงฆ์
และความเกี่
ยวโยงระหว่
าง พุ
ทธศาสนากั
บวั
ฒนธรรมด้
าน
อื่นๆ ซึ่งมีผลสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน พบว่า คติความเชื่อในทาง พุทธศาสนามี
อิ
ทธิ
พลต่อวิ
ถี
การด�
ำเนิ
นชี
วิ
ตของชาวบ้านอย่างยิ่
ง
งานวิ
จั
ยเรื่
องเส้
นทางโบราณข้
ามคาบสมุ
ทรมาลายูจากคลองท่
อมจั
งหวั
ด
กระบี่
ถึ
งอ่าวบ้านดอน (ชั
ยวุ
ฒิ
พิ
ยะกูล และกลิ่
น คงเหมื
อนเพชร, 2539) เป็นผล
งานที่
พยายามหาค�
ำตอบทางประวั
ติ
ศาสตร์
เกี่
ยวกั
บเส้
นทางติ
ดต่
อโบราณจากกระบี่