งานวิจัยวัฒนธรรมภาคใต้
137
การเก็บของป่าล่าสัตว์ การรวมกลุ่มกันท�ำเครื่องมือ การเรียนรู้วิธีการเก็บ
ของป่าล่าสัตว์ ในสังคม ซาไก และการสร้างทับส�
ำหรับพักอาศัย ก็นับเนื่องเป็น
ความบั
นเทิ
งอย่
างหนึ่
ง นอกจากนั้
น ยั
งมี
ผลงานที่
กล่
าวถึ
งวิ
ถี
ชี
วิ
ตของหนุ
่
มสาวซาไก
ว่
า ปั
จจุ
บั
นได้
ฟั
งวิ
ทยุ
ดูโทรทั
ศน์
จากบ้
านชาวบ้
านที่
อยู่
ใกล้
เคี
ยง พวกเขาร้
องเพลง
ภาษาไทยกลางตามเสี
ยงวิ
ทยุ
เช่
น เพลงของนั
กร้
องลูกทุ
่
ง นอกจากนั้
นยั
งเอาท�
ำนอง
ที่
เคยได้
ยิ
นจากวิ
ทยุ
มาใส่
เนื้
อเพลงที่
เกี่
ยวกั
บเรื่
องที่
พบเห็
น เช่
น เรื่
องการล่
าสั
ตว์
ของ
ตนหรื
อเรื่
องการเดิ
นทางไปเยี่
ยมญาติ
(จิ
รวดี
อ่อนวงศ์ : 2534) จากการสอบถาม
พวกเขาบอกว่าไม่มี
เพลง แต่ในภาษาซาไกมี
ศั
พท์ค�
ำว่า “Piya” แปลว่า เพลง หรื
อ
ร้องเพลง แท้ที่จริงแล้วเพลงซาไกไม่มีเนื้อร้องที่แน่นอน คือไม่มีการแต่งเนื้อร้องไว้
เหมื
อนเพลงไทย หรื
อเพลงสากล แต่
จะคล้
ายกั
บเพลงของชาวเล ซึ่
งเป็
นกลุ่
มดั้
งเดิ
ม
ที่
ไม่
มี
ภาษาเขี
ยน ไม่
มี
การจดบั
นทึ
ก อาศั
ยการจดจ�
ำท�
ำนองแล้
วแต่
งเนื้
อร้
องสดๆ ใน
ขณะที่
ร้
อง เนื้
อร้
องส่
วนใหญ่
มั
กจะบรรยายการเดิ
นทางไปล่
าสั
ตว์
บรรยายเหตุ
การณ์
ที่เกิดขึ้นขณะที่ร้อง หรือบางครั้งใช้โต้ตอบแทนการพูดคุยทั่วไป เช่น ร้องบรรยาย
ลักษณะเครื่องบินขณะเฝ้าดูเครื่องบินบินผ่าน และร้องโต้ตอบเพื่อล้อเลียนค�
ำพูด
ของผู้วิจัย ปัจจุบันมีการเลียนแบบท�
ำนองเพลงไทยและมาเลย์จากวิทยุ และบาง
ครั้
งแต่งเนื้
อร้องเป็นภาษาไทย (อาภรณ์ อุ
กฤษณ์ : 2536)
นอกจากนั้
น ยั
งใช้
เวลาว่
างในการเล่
านิ
ทาน ต�ำนาน หรื
อเล่
าเรื่
องประทั
บใจ
ที่เคยเกิดขึ้นในอดีตซ�้
ำแล้วซ�้ำอีก เพื่อเรียกเสียงหัวเราะจากสมาชิก หรือหากไม่มี
อะไรท�
ำขณะนั่
งรอให้
ตะวั
นตกดิ
น ก็
จะนั่
งยองๆ บนขอนไม้
ฟั
งเสี
ยงค่
างที่
เกาะปลาย
ไม้บนภูเขาสูง เพื่
อนั
บจ�
ำนวนค่าง (อาภรณ์ อุ
กฤษณ์ : 2536)
แม้ลักษณะสังคมทั่วไปของชาวเงาะหรือซาไกยังเป็นสังคมยุคล่าสัตว์และ
เก็บหาอาหาร แต่ข้อเท็จจริงลักษณะการตั้งครอบครัวไม่มีร่องรอยของการสมรสแบบ
หมู่ หรือพิวนาลวน
หรือสมรสคู่
หากแต่เป็นระบบครอบครัวที่พัฒนาถึงขีดสุดแล้ว
คือเป็นครอบครัวผัวเดียวเมียเดียวอย่างมีระบบแบบแผน ชายหญิงในเครือญาติ
ใกล้ชิดกันจะสมรสกันไม่ได้ และไม่มีการส�ำส่อนในเรื่องเพศ ไม่มีการเป็นชู้กัน และ
ไม่มีผู้หญิงลักษณะเป็นโสเภณี