งานวิจัยวัฒนธรรมภาคเหนือ
189
ในการเคลื่
อนไหวเพื่
อต่
อรองกั
บวาทกรรมการพั
ฒนา ชาวบ้
านจะหยิ
บยก
ประเด็
นเกี่
ยวกั
บผลกระทบที่
ก่
อให้
เกิ
ดความเสี่
ยงต่
อความมั่
นคงในการด�
ำรงชี
วิ
ต
ในด้านต่างๆ มาใช้ต่อรองในพื้
นที่
ของชี
วิ
ตประจ�
ำวั
น เพื่
อปรั
บเปลี่
ยนความสั
มพั
นธ์
ระหว่
างกลุ
่
มต่
างๆ ภายในชุ
มชนเองเป็
นเบื้
องต้
น ตามมาด้
วยการผลั
กดั
นให้
รั
ฐ
ยกเลิ
กโครงการพั
ฒนาเหมื
องถ่
านหิ
น บนพื้
นฐานของการปกป้
องดูแลทรั
พยากร
ส่
วนร่
วม ที่อาจจะได้
รั
บผลกระทบร่
วมกันทั้
งลุ
่
มน�้
ำ และท้
ายที่สุ
ดชาวบ้
านก็ผลั
ก
ดั
นให้
องค์
กรท้
องถิ่
นออกข้
อบั
ญญั
ติ
ท้
องถิ่
นขึ้
นมารั
บรองอ�
ำนาจของชุ
มชนในการ
สร้
างกฎเกณฑ์
ต่
างๆ ในการจั
ดการการใช้
ทรั
พยากรในพื้
นที่
ซึ่
งแสดงให้
เห็
นถึ
งความ
พยายามของชาวบ้
านในการมี
ส่
วนร่
วมกั
บจั
ดการทรั
พยากร แทนการถูกกี
ดกั
นสิ
ทธิ
จากอ�
ำนาจรั
ฐเพี
ยงฝ่ายเดี
ยว (กิ
ติ
มา 2555)
อี
กพื้
นที่
หนึ่
งของการช่วงชิ
งความหมายเกี่
ยวกั
บการอนุ
รั
กษ์และการพั
ฒนา
ที่
น่
าสนใจในเชิ
งวั
ฒนธรรมกั
บการพั
ฒนาก็
คื
อ กรณี
การเมื
องของการช่
วงชิ
ง
วาทกรรมว่
าด้
วยปลาบึ
ก ดั
งตั
วอย่
างในวิ
ทยานิ
พนธ์
ของพิ
พั
ฒน์
ธนากิ
จ (2552) เรื่
อง
‘วาทกรรมว่
าด้
วยปลาบึ
กในเชี
ยงของ: การต่
อรองการพั
ฒนาของชาวบ้
านใน
ลุ
่
มน�้
ำโขง’ ซึ่
งเกิ
ดขึ้
นในบริ
บทของการพั
ฒนาที่
ต่
อสู้
ช่
วงชิ
งกั
นระหว่
างวาทกรรม
การพั
ฒนากระแสหลั
กที่
เน้
นความเจริ
ญเติ
บโตทางเศรษฐกิ
จ ด้
วยการผลั
กดั
นให้
ใช้
แม่
น�้
ำโขงเป็
นเส้
นทางการค้
าข้
ามพรมแดนมากขึ้
น และวาทกรรมกระแสรองที่
มุ
่
งเน้
น
การพั
ฒนาอย่
างยั่
งยื
น ด้
วยการอนุ
รั
กษ์
ธรรมชาติ
และสิ่
งแวดล้
อมของแม่
น�้ำโขง
ผ่
านโครงการอนุ
รั
กษ์
ปลาบึ
กของภาคประชาสั
งคมทั้
งระดั
บท้
องถิ่
นและระดั
บสากล
ในชุ
มชนริ
มแม่
น�้
ำโขงที่
มี
พรานปลาบึ
กและการจั
บปลาบึ
กมาอย่
างยาวนาน โดยกลุ
่
ม
อนุ
รั
กษ์จะใช้โครงการอนุ
รั
กษ์ปลาบึ
กนี้
เองเป็นสั
ญลั
กษณ์ในการต่อต้านการระเบิ
ด
เกาะแก่งในแม่น�้
ำโขง เพื่
อเพิ่
มความสะดวกให้กั
บเส้นทางเดิ
นเรื
อค้าขาย
การศึ
กษาวิ
จั
ยของพิ
พั
ฒน์
(2552: 173-181) พบว่
า การต่
อสู้
กั
นของวาทกรรม
การพั
ฒนาทั้
งสองกระแสนั้
นเป็
นปฏิ
บั
ติ
การของการช่
วงชิ
งการนิ
ยามความหมาย
ของแม่
น�้
ำและปลาบึ
ก เพื่
อจะได้
มี
อ�
ำนาจเข้
ามาควบคุ
มและใช้
ประโยชน์
ทรั
พยากรธรรมชาติ
ต่
างๆ อย่
างสุ
ดโต่
ง ซึ่
งน�
ำไปสู่
การกี
ดกั
นทรั
พยากรออกไปจากการ