166
กำ�กึ๊ดกำ�ปาก
ท้
องถิ่
นเกี่
ยวกั
บพั
นธะต่
อชุ
มชน ดั
งเช่
นวิ
ทยานิ
พนธ์
ปริ
ญญาเอกของ ซูซาน ดาร์
ลิ
งตั
น
เรื่
อง ‘Buddhism, Morality and Change: Local Response to Development in Northern
Thailand’ (Darlington 1990) แต่ในระยะต่อมาเมื่
อการวิ
จั
ยชุ
มชนในชนบทมี
มากขึ้
น
ความสนใจกลับหันไปให้ความส�ำคัญกับความรู้ในแง่ที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นแทน
ในฐานะเป็
นศั
กยภาพของชุ
มชนท้
องถิ่
นในการจั
ดการวิ
ถี
ชี
วิ
ตด้
านต่
างๆ ของ
ตนเอง โดยเฉพาะด้านการเกษตร การจัดการทรัพยากร และการรักษาพยาบาล
ดั
งตั
วอย่
างการวิ
จั
ยระดั
บชุ
มชนท้
องถิ่
นในลุ
่
มน�้
ำแม่
ขาน จั
งหวั
ดเชี
ยงใหม่
ของ
พรพิ
ไล เลิ
ศวิ
ชาและอรุ
ณรั
ตน์ วิ
เชี
ยรเขี
ยว (2546) เรื่
อง
ชุมชนหมู่บ้านลุ่มน�้ำขาน
แต่
การวิ
จั
ยความรู้
และภูมิ
ปั
ญญาท้
องถิ่
นในภาคเหนือของนั
กวิ
ชาการไทย
ในช่วงหลั
งปี พ.ศ 2540 เป็นต้นมา ค่อนข้างจะเน้นความเข้มข้นมากในการศึ
กษา
กรณี
ของกลุ่มชาติ
พั
นธุ์บนที่
สูง โดยเฉพาะที่
เกี่
ยวข้องกับการจั
ดการทรั
พยากรและ
การเกษตร และมั
กจะเน้
นไปที่
ชาวปกาเกอะญอเป็
นส่
วนใหญ่
ในฐานะกลุ
่
มชาติ
พั
นธุ
์
ที่
มี
ความสามารถในการจั
ดการไร่
หมุ
นเวี
ยนเชิ
งอนุ
รั
กษ์
และการยั
งชี
พได้
เด่
นชั
ด
เป็นพิ
เศษ ส่วนกลุ่มชาติ
พั
นธุ์อื่
นๆ จะได้รั
บความสนใจไม่มากนั
ก แม้ว่าพวกเขาจะ
เริ่
มหั
นมาแสดงความสามารถในการอนุ
รั
กษ์
ได้
เช่
นเดี
ยวกั
น ไม่
ว่
าจะเป็
น คนม้
ง และ
ลาหู่ ดั
งได้กล่าวถึ
งไปบ้างแล้วในหั
วข้อแรก
ในปี
พ.ศ 2544 ข้
อสรุ
ปหลั
กจากการวิ
จั
ยของนั
กวิ
ชาการไทยจ�
ำนวนมากที่
ว่
า
ชาวปกาเกอะญอมี
ภูมิ
ปั
ญญาอย่
างดี
ในการจั
ดการไร่
หมุ
นเวี
ยนอย่
างยั่
งยื
นได้
ถูก
นั
กวิ
ชาการชาวออสเตรเลี
ยชื่
อ แอนดรูว์ วอคเกอร์ (Walker 2001) วิ
พากษ์วิ
จารณ์
ไปในเชิ
งทั
กท้
วงว่
า ข้
อสรุ
ปดั
งกล่
าวคงจะเป็
นแค่
เพี
ยง “ฉั
นทามติ
ของชาวกะเหรี่
ยง”
(Karen Consensus) ในหมู่
นั
กวิ
ชาการและนั
กพั
ฒนาเอกชน เพื่
อสร้
างความชอบธรรม
ในการใช้
ป่
า แต่
กลั
บละเลยบริ
บททางประวั
ติ
ศาสตร์
ที่
บ่
งบอกอย่
างชั
ดว่
า ในระยะยาว
แล้
วยั
งมี
การท�
ำการเกษตรอย่
างเข้
มข้
นในเชิ
งพาณิชย์
อยู่
บนที่
สูงด้
วย จนอาจ
ท�
ำให้
ชาวปกาเกอะญอต้
องเสี่
ยงที่
จะสูญเสี
ยโอกาส ในการเข้
าถึ
งทรั
พยากรและ
การสนับสนุ
นด้านการพัฒนาได้ ข้อวิจารณ์นี้
จึงเป็นการตั้งข้อสงสัยหรือค�
ำถามว่า
ชาวปกาเกอะญอมี
ภูมิ
ปั
ญญาที่
มี
ศั
กยภาพดั
งกล่
าวดี
จริ
ง หรื
อว่
าเป็
นเพี
ยงการ
ลงความเห็
นตามๆ กั
นไป เสมื
อนหนึ่
งเป็นเช่นฉั
นทามติ
เท่านั้
น