Previous Page  165 / 272 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 165 / 272 Next Page
Page Background

164

กำ�กึ๊ดกำ�ปาก

ตนเองของกลุ

มชาติ

พั

นธุ

จึ

งมี

นั

ยส�

ำคั

ญต่

อการเมื

องของอั

ตลั

กษณ์

ทางชาติ

พั

นธุ

ตามแนวความคิ

ดที่

ได้

รั

บอิ

ทธิ

พลส่

วนหนึ่

งจากกรั

มชี

(Gramsci 1985) เกี่

ยวกั

การช่

วงชิ

งความหมาย ซึ่งผู้

เขี

ยนได้

ขยายความไว้

แล้

วในบทที่ว่

าด้

วย “การเมื

อง

วั

ฒนธรรมในความคิ

ดของกรั

มชี

” (อานั

นท์ 2555ง: 197-220)

ที่

จริ

งแล้

ว กลุ

มชาติ

พั

นธุ

ต่

างๆ บนที่

สูงมั

กจะพยายามแสดงอั

ตลั

กษณ์

ของตน

อย่

างหลากหลาย เพื่

อต่

อสู้

กั

บวาทกรรมครอบง�

ำจากภาครั

ฐและสั

งคมภายนอก ซึ่

มั

กจะแฝงไว้

ด้

วยอคติ

ทางชาติ

พั

นธุ

ด้

วยการกั

กขั

งภาพลั

กษณ์

ของพวกเขาไว้

กั

บภาพ

ด้านลบต่างๆ อย่างตายตั

ว ไม่ว่าจะเป็นคนท�

ำลายป่า คนที่

เป็นภั

ยต่อความมั่

นคง

หรือคนค้ายาเสพติด ความพยายามดังกล่าวมักจะแสดงออกผ่านการปรับเปลี่ยน

อั

ตลั

กษณ์

อย่

างซั

บซ้

อน ดั

งตั

วอย่

างในวิ

ทยานิ

พนธ์

ของ อรั

ญญา ศิ

ริ

ผล (2544)

เรื่อง ‘ฝิ่นกับคนม้ง: พลวัตความหลากหลายและความซับซ้อนแห่งอัตลักษณ์ของ

คนชายขอบ’ ซึ่

งพบว่

า คนม้

งให้

ความหมายกั

บฝิ

นหลายอย่

าง ทั้

งด้

านลบและ

ด้านบวก แตกต่างจากสังคมภายนอกที่มักจะมองฝิ่นด้วยภาพด้านลบอย่างเดียว

แล้วป้ายสีภาพลบนั้

นให้กับคนม้งอย่างตายตัว คนม้งจึงต้องต่อสู้กับภาพด้านลบ

ต่

างๆ ในฐานะที่

เป็

นวาทกรรมครอบง�

ำ เพื่

อก�

ำหนดทิ

ศทางในการพั

ฒนาตนเอง

แทนที่

จะเดิ

นไปตามทางที่

ก�

ำหนดจากสายตาของคนภายนอก การแสดงอั

ตลั

กษณ์

อย่

างหลากหลายจึ

งเปรี

ยบเสมื

อนกลยุ

ทธ์

ทางวั

ฒนธรรมในการพั

ฒนาของกลุ

ชาติ

พั

นธุ์อย่างหนึ่

ต่

อมา อรั

ญญา ได้

ประมวลและสั

งเคราะห์

แนวทางในการต่

อรองอั

ตลั

กษณ์

ของคนม้

งในกรณี

ศึ

กษาออกมาอย่

างน้

อย 3 แนวทางด้

วยกั

น ส่

วนหนึ่

งเลื

อกที่

จะมุ

งไป

ด้

านการค้

าขาย โดยเฉพาะการหั

นไปผลิ

ตและขายหั

ตถกรรมทางวั

ฒนธรรมของตน

ด้

วยการสร้

างเครื

อข่

ายทางการค้

าอย่

างกว้

างขวาง จนสามารถท�

ำธุ

รกิ

จส่

งสิ

นค้

าออก

ไปต่

างประเทศได้

เอง บางส่

วนก็

หั

นไปท�

ำการเกษตรแบบถาวร ด้

วยการท�

ำสวนไม้

ผล

ไม่ว่าจะเป็นลิ้

นจี่

ล�ำไย หรื

อมะม่วง ท�

ำนองเดี

ยวกั

นกั

บคนพื้

นราบ แทนที่

จะผูกติ

อยู่

กั

บการพึ่

งพาการเพาะปลูกแบบย้

ายที่

ด้

วยการปลูกฝิ่

นเช่

นในอดี

ต ขณะที่

คนใน

ชุ

มชนก็

หั

นมาสนใจปกป้

องรั

กษาป่

าศั

กดิ์

สิ

ทธิ์

ซึ่

งถื

อเป็

นความพยายามปรั

บใช้

ความรู้