Previous Page  134 / 272 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 134 / 272 Next Page
Page Background

งานวิจัยวัฒนธรรมภาคเหนือ

133

ทางภาษาว่

าด้

วย “ความเป็

นอื่

น” ที่

เกิ

ดขึ้

นในบริ

บททางการเมื

องเรื่

องความสั

มพั

นธ์

เชิ

งอ�

ำนาจระหว่างรั

ฐกั

บกลุ่มชาติ

พั

นธุ์ อย่างไรก็

ตามการกั

กขั

งอั

ตลั

กษณ์ชาติ

พั

นธุ์

โดยรัฐเริ่มถูกท้าทายมากขึ้นเมื่อบริบทของโลกเปิดกว้างให้ความส�ำคัญในประเด็น

สิทธิชุมชน สิทธิมนุษยชน การเมืองนิเวศ ซึ่งเป็นเงื่อนไขส�

ำคัญในการตอบโต้ต่อ

กระบวนการกั

กขั

งอั

ตลั

กษณ์

ดั

งกล่

าว โดยเฉพาะเมื่

อปฏิ

สั

มพั

นธ์

ระหว่

างอ�

ำนาจ

เชิ

งสั

ญลั

กษณ์

ได้

สร้

างอั

ตลั

กษณ์

ความเป็

นชาติ

พั

นธุ

ที่

หลากหลายและซั

บซ้

อน

ซึ่

งถูกใช้เป็นยุ

ทธวิ

ธี

ในการต่อรองและน�ำเสนอตั

วเองที่

ลื่

นไหลไปตามเงื่

อนไขต่างๆ

นอกจากการมุ

งเน้

นท�

ำความเข้

าใจว่

าอั

ตลั

กษณ์

ชาติ

พั

นธุ

ถูกสร้

างขึ้

นมา

อย่

างไร งานศึ

กษายั

งเน้

นว่

าพรมแดนทางชาติ

พั

นธุ

นั้

นถูกข้

ามและสลายลงไปอย่

างไร

โดยเฉพาะอย่

างยิ่

งในพื้

นที่

ที่

มี

ความสั

มพั

นธ์

ของหลายกลุ

มชาติ

พั

นธุ

เช่

นในพื้

นที่

ตลาดและการท่

องเที่

ยว เช่

นงานของทวิ

ช จตุ

วรพฤกษ์

(2548) ที่

ศึ

กษากลุ่

มชาติ

พั

นธุ

ในบ้านน�้

ำริ

น บ้านกึ๊

ดสามสิ

บ (ลี

ซู) บ้านบ่อไคร้ และบ้านลุ

กข้าวหลาม (ลาหู่เฌเล)

ในเขตอ�

ำเภอปางมะผ้

า จั

งหวั

ดแม่

ฮ่

องสอน ซึ่

งได้

กลายเป็

นพื้

นที่

ท่

องเที่

ยว ส่

งผลให้

กลุ

มชาติ

พั

นธุ

ต่

างๆ ในพื้

นที่

แข่

งขั

นกั

นน�

ำเสนอจุ

ดเด่

นของตั

วเองให้

แตกต่

างจาก

กลุ่มอื่น กระบวนการเปลี่ยนวัฒนธรรมเป็นสินค้าท�

ำให้เส้นแบ่งพรมแดนชาติพันธุ์

พร่

าเลื

อน ไม่

ชั

ดเจน สิ

นค้

าหรื

อของที่

ระลึ

กที่

ขายให้

กั

บนั

กท่

องเที่

ยว นอกจากจะเป็

ภาพแสดงแทนอัตลักษณ์ชาติพันธุ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของนั

กท่องเที่ยว

แล้

ว ยั

งเป็

นพื้

นที่

ของการปะทะและผสมผสานระหว่

างกลุ

มชาติ

พั

นธุ

ด้

วย การเปลี่

ยน

ภาพแสดงแทนความเป็

นของแท้

และความแปลกให้

กลายเป็

นสิ

นค้

านั้

น สามารถท�

ำได้

หลายวิ

ธี

เช่

นการดึ

งความหมายหรื

อองค์

ประกอบออกจากบริ

บททางวั

ฒนธรรมเดิ

ไปใส่

ในพื้

นที่

ใหม่

ที่

มี

ความหมายต่

างจากเดิ

ม การหยิ

บยื

มความหมายทางวั

ฒนธรรม

ของกลุ่มอื่

นมาเป็นของตั

วเอง เป็นต้น

การเปลี่

ยนแปลงที่

เกิ

ดขึ้

นอย่

างรวดเร็

วในยุ

คโลกาภิ

วั

ฒน์

ที่

ผู้

คนมี

การโยกย้

าย

เข้

าเมื

องหรื

อข้

ามชาติ

ท�

ำให้

มี

การปรั

บเปลี่

ยนวิ

ถี

ชี

วิ

ตและวั

ฒนธรรม โดยรั

บเอา

วั

ฒนธรรมใหม่

ๆ ขณะเดี

ยวกั

นก็

อาจจะไม่

ตั

ดความสั

มพั

นธ์

กั

บชุ

มชนเดิ

มเสี

ยที

เดี

ยว

และอาจจะยั

งคงการปฏิ

บั

ติ

วั

ฒนธรรมดั้

งเดิ

มบางอย่

าง การด�

ำรงอั

ตลั

กษณ์

ชาติ

พั

นธุ