งานวิจัยวัฒนธรรมภาคเหนือ
131
Burma and Thai Borderlands” เน้
นอั
ตลั
กษณ์
ที่
ปรั
บข้
ามท้
องถิ่
น หรื
อ trans-localized
เนื่
องจากมี
การอพยพข้ามชาติ
มากขึ้
น ดั
งนั้
นจึ
งพบว่า คนอ่าข่าซึ่
งอพยพเข้ามาอยู่
ในไทย ระบุอั
ตลั
กษณ์ว่าเป็นคนจี
น ทั้
งๆ ที่
ตอนอยู่จี
นถูกเรี
ยกว่าเป็น “ฮานี
” และ
อยู่
ในไทยเรี
ยกว่
า “อ่
าข่
าหรื
อชาวเขา” อั
ตลั
กษณจี
นที่
ข้
ามท้
องถิ่
นนั้
น แสดงให้
เห็
นถึ
ง
ทุ
นทางสั
งคมและวั
ฒนธรรมของเครื
อข่
ายทางสั
งคมข้
ามชาติ
ผ่
านประสบการณ์
ส่
วนบุ
คคลของผู้
อพยพ และกลยุ
ทธ์
ทางเลื
อกของความอยู่
รอดตอบโต้
กั
บการ
จั
ดประเภทกลุ่มชาติ
พั
นธุ์แบบจิ
นตนาการที่
กระท�
ำโดยรั
ฐชาติ
นอกจากนี้
งานของ
Tapp (2000) เรื่
อง “Ritual Relations and Identity: Hmong and Others” เสนอว่
าการที่
กลุ่
มชาติ
พั
นธุ์
รั
บเอาวั
ฒนธรรมของชนกลุ่
มใหญ่
ในสั
งคมมาปฏิ
บั
ติ
เช่
น กรณี
ของม้
ง
ที่
รั
บเอาวั
ฒนธรรมจี
นมาใช้
นั้
น อาจไม่
ได้
หมายความว่
าวั
ฒนธรรมหลั
กหรื
อวาทกรรม
ที่
มี
สถานะน�
ำนั้
นได้
รั
บชั
ยชนะเสมอไป แต่
อาจจะเป็
นการท้
าทายอย่
างได้
ผลต่
อ
ศูนย์กลางโดยชายขอบ
การศึ
กษาอั
ตลั
กษณ์
ชาติ
พั
นธุ์
ในฐานะที่
เป็
นวาทกรรม จึ
งเกี่
ยวพั
นอย่
างมาก
กั
บการเกิ
ดขึ้
นของรั
ฐชาติ
สมั
ยใหม่
ชาติ
นิ
ยมหรื
อความเป็
นชาติ
ความสั
มพั
นธ์
ระหว่
างกลุ
่
มชาติ
พั
นธุ
์
กั
บรั
ฐชาติ
มี
ผลอย่
างมากต่
อกระบวนการสร้
างอั
ตลั
กษณ์
ชาติ
พั
นธุ
์
การที่
รั
ฐชาติ
ด�
ำเนิ
นการจ�
ำแนกชาติ
พั
นธุ
์
และนโยบายและการปฏิ
บั
ติ
ของรั
ฐชาติ
ที่
มี
ต่
อกลุ
่
มชาติ
พั
นธุ
์
ล้
วนเป็
นปั
จจั
ยส�
ำคั
ญของการสร้
างและปรั
บ
อั
ตลั
กษณ์
ของกลุ
่
มชาติ
พั
นธุ
์
ด้
วยเหตุ
นี้
งานอี
กกลุ
่
มหนึ่
งจึ
งเน้
นศึ
กษาการเปลี่
ยนแปลง
อั
ตลั
กษณ์ชาติ
พั
นธุ์ที่
เป็นผลจากนโยบายของรั
ฐชาติ
และจากการปรั
บตั
วของกลุ่ม
ชาติ
พั
นธุ
์
เอง ดั
งตั
วอย่
างงานวิ
ทยานิ
พนธ์
ของ Prasit (2001) ที่
ชี้
ให้
เห็
นว่
ามี
ปั
จจั
ยหลาย
ประการที่
ท�
ำให้
อั
ตลั
กษณ์
ทางเครื
อญาติ
ของม้
งเปลี่
ยนแปลงไป โดยเฉพาะอย่
างยิ่
ง
ระบบการจดทะเบี
ยนประชากรและการศึ
กษา นโยบายการพั
ฒนาเข้
าสู่
ความทั
นสมั
ย
และการที่
คนต้
องโยกย้
ายออกจากพื้
นที่
เดิ
ม ท�
ำให้
การปฏิ
บั
ติ
ศาสนาและวั
ฒนธรรม
ที่
อยู่
บนพื้
นฐานลั
กษณะเฉพาะของพื้
นที่
และความสั
มพั
นธ์
ทางเครื
อญาติ
ด�
ำรง
อยู่ได้ยาก กระบวนการเปลี่ยนศาสนาจากแบบดั้งเดิมไปเป็นศาสนาหลักของโลก
จึ
งเกิ
ดขึ้
น ท�
ำให้
อั
ตลั
กษณ์
ชาติ
พั
นธุ
์
มี
ความหลากหลายมากขึ้
น ดั
งข้
อสรุ
ปจาก