Previous Page  129 / 272 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 129 / 272 Next Page
Page Background

128

กำ�กึ๊ดกำ�ปาก

3.8 บทสังเคราะห์แนวทางการศึกษา

จากการทบทวนงานวิ

จั

ยในระยะสิ

บกว่าปีที่

ผ่านมา พบว่ามี

ความพยายาม

ที่จะน�ำเอาแนวคิดทฤษฎีใหม่ๆ มาท�ำความเข้าใจสถานการณ์ที่ซับซ้อนและมีการ

ปรั

บเปลี่

ยนเป็นพลวั

ต การใช้แนวคิ

ดโครงสร้างหน้าที่

นิ

ยม ที่

เคยใช้กั

นมากในงาน

ศึกษาทางสังคมวิทยาและมานุษยวิทยาเมื่อหลายสิบปีก่อนมีน้อยลง แต่มีการน�ำ

แนวคิดแบบหลังสมัยใหม่นิยมหรือหลังโครงสร้างนิยมมาใช้มากขึ้น นอกจากนี้ใน

ทางวิ

ธี

วิ

ทยา ก็

มี

การปรั

บเปลี่

ยนจากการศึ

กษาแบบชาติ

พั

นธุ์

วิ

ทยาที่

เน้

นการศึ

กษา

ชุ

มชนเดี

ยว พื้

นที่

เดี

ยว หรื

อกลุ

มชาติ

พั

นธุ

เดี

ยว เพื่

อท�

ำความเข้

าใจอย่

างลึ

กซึ้

ถึงลักษณะเฉพาะของชุมชน พื้นที่

หรื

อกลุ

มที่

ศึ

กษา เป็

นการศึ

กษาความสั

มพั

นธ์

ระหว่

างกลุ

ม หรื

อความสั

มพั

นธ์

กั

บรั

ฐและกลุ

มอ�

ำนาจภายนอกมากขึ้

น มี

การถกเถี

ยง

มากขึ้

นถึ

งความสั

มพั

นธ์

ระหว่

างโครงสร้

างกั

บผู้

ปฏิ

บั

ติ

การ (structure-agency)

ในลักษณะที่ทั้งสองต่างก�ำหนดซึ่งกันและกันและเป็นองค์ประกอบของกันและกัน

(Amporn 2008: 242)

การปรับเปลี่ยนแนวคิดที่ใช้ในงานวิจัยด้านชาติพันธุ์ในระยะสิบปีที่ผ่านมา

เห็

นได้

ชั

ด ในการใช้

แนวคิ

ดเรื่

องอั

ตลั

กษณ์

ชาติ

พั

นธุ

(ethnic identity) ที่

แตกต่

างจากเดิ

ที่

ใช้

แนวคิ

ดนี้

ในเชิ

งสารั

ตถะนิ

ยม (essentialism) นั่

นคื

อถื

อว่

าอั

ตลั

กษณ์

เป็

นสิ่

งที่

ติ

ดตั

มาตั้งแต่เกิดและถูกหล่อหลอมในท่ามกลางวัฒนธรรมนั้

นๆ และใช้ในความหมาย

ที่ทั

บซ้

อนกับค�

ำว่

าเอกลักษณ์

ซึ่งอธิ

บายอัตลั

กษณ์

ชาติ

พั

นธุ์

จากการที่แต่

ละกลุ

ชาติ

พั

นธุ

มี

วั

ฒนธรรมที่

โดดเด่

น ที่

ส�

ำคั

ญคื

อภาษาพูดภาษาเขี

ยน ลั

กษณะของ

การแต่

งกาย รูปแบบการสร้

างบ้

านเรื

อน อาหาร จารี

ตประเพณี

และการปฏิ

บั

ติ

ทาง

วั

ฒนธรรมอื่

นๆ ที่

แตกต่างจากกลุ่มอื่

น การอธิ

บายอั

ตลั

กษณ์ชาติ

พั

นธุ์ในลั

กษณะ

ที่เหมือนกับเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ได้รับการวิจารณ์ว่าเป็นการมองอัตลักษณ์

ชาติ

พั

นธุ์

ที่

หยุ

ดนิ่

งไม่

เปลี่

ยนแปลง และที่

ส�

ำคั

ญคื

อเป็

นการก�

ำหนดจากคนภายนอก

และนั

กวิชาการ โดยที่เจ้

าของวัฒนธรรมไม่ได้

รับรู้

หรือไม่

ได้

ให้

ความยินยอม เช่น

กรณี

ของการเรี

ยกชื่

อกลุ

ม ชื่

อที่

คนนอกกลุ

มเรี

ยกไม่

ได้

เป็

นค�

ำที่

คนในกลุ

มใช้

ใน