Previous Page  117 / 272 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 117 / 272 Next Page
Page Background

116

กำ�กึ๊ดกำ�ปาก

เข้

าถึ

งแหล่

งทุ

นและการตลาด ในขณะที่

ปั

ญหาความขั

ดแย้

งในเรื่

องการใช้

ที่

ดิ

และทรั

พยากรธรรมชาติ

มี

เพิ่

มขึ้

น บทความของ Chumphol (2004) ก็

กล่

าวถึ

การเปลี่

ยนแปลงรูปแบบการใช้

แรงงานในชุ

มชนกะเหรี่

ยงจากเดิ

มที่

เน้

นการ

แลกเปลี่

ยนแรงงาน กลายเป็นการจ้างงาน

นอกจากการเปลี่

ยนจากการท�

ำไร่

ท�

ำนา และเลี้

ยงสั

ตว์

แบบเดิ

มเป็

นเกษตรเชิ

พาณิ

ชย์

แล้

ว ชุ

มชนบนพื้

นที่

สูงบางแห่

งยั

งพั

ฒนาระบบเศรษฐกิ

จจากการท่

องเที่

ยว

เช่

น การจั

ดให้

มี

โฮมสเตย์

ผลิ

ตหั

ตถกรรมขายให้

นั

กท่

องเที่

ยว เป็

นไกด์

น�

ำเที่

ยว

สะท้

อนให้

เห็

นในงานวิ

ทยานิ

พนธ์

ของกิ

ติ

ธั

ช เอี่

ยมพร้

อม (2543) ซึ่

งศึ

กษาชุ

มชน

หลายชาติ

พั

นธุ

ได้

แก่

กะเหรี่

ยง ลาหู่

เย้

า ลี

ซอ อ่

าข่

า ที่

อพยพจากพม่

าเข้

ามา

ในประเทศไทยนานแล้

ว และได้

ปรั

บตั

วกลายเป็

นหมู่

บ้

านท่

องเที่

ยว ในปี

2543

ที่

หมู่บ้านแห่งนี้

มี

ช้างที่

ให้บริ

การนั

กท่องเที่

ยวถึ

ง 41 เชื

อก การศึ

กษาถึ

งผลกระทบ

ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่มีต่

อชุมชนชาติพันธุ์มีทั้งการเน้

นในด้

านบวกและ

ด้

านลบ โดยในส่

วนที่

เป็

นด้

านบวก ได้

แสดงให้

เห็

นถึ

งศั

กยภาพในการจั

ดการท่

องเที่

ยว

ในชุ

มชน การใช้

การท่

องเที่

ยวเป็

นเวที

ในการสร้

างพื้

นที่

ทางสั

งคมของกลุ่

มชาติ

พั

นธุ์

และเพื่

อต่

อรองกั

บหน่

วยงานของรั

ฐ โดยเฉพาะในกรณี

ของชุ

มชนที่

ตั้

งอยู่

ในพื้

นที่

อุ

ทยานแห่

งชาติ

เช่

นงานเรื่

องการท่

องเที่

ยวเชิ

งนิ

เวศและกระบวนการมี

ส่

วนร่

วม

ของชุมชนในการจัดการท่องเที่ยวของยศ สันตสมบัติ และคณะ (2546) และของ

สิ

นธุ

สโรบลและคณะ (2545) ในส่

วนของผลกระทบทางลบ งานของ Cohen (2001) ที่

เชื่

อมโยงเรื่

องของการท่

องเที่

ยวเข้

ากั

บการขายบริ

การทางเพศของ “ชาวเขา”

งานที่

ศึ

กษากระบวนการท�

ำให้

วั

ฒนธรรมของกลุ

มชาติ

พั

นธุ

กลายเป็

นสิ

นค้

าเพื่

การท่องเที่

ยว เช่น ไพโรจน์ คงทวี

ศั

กดิ์

(2554) และ ทวิ

ช จตุ

วรพฤกษ์ (2548) และ

งานของสาริ

ณี

ย์

ภาสยะวรรณ (2554) เรื่

อง “การเมื

องของการสร้

างภาพตั

วแทนทาง

ชาติพันธุ์ในพื้นที่การท่องเที่ยว กรณีศึกษาโฮมสเตย์ชาวลาหู่บ้านยะฟู” ซึ่งพบว่า

การท่

องเที่

ยวแบบโฮมสเตย์

ซึ่

งส�

ำหรั

บหมู่

บ้

านนี้

ลูกค้

าส่

วนใหญ่

เป็

นนั

กท่

องเที่

ยว

แบบเดิ

นป่

าชาวต่

างประเทศ เป็

นแหล่

งรายได้

ที่

ดี

ที่

ชดเชยผลผลิ

ตและรายได้

จาก

ภาคเกษตรที่

ลดลงเนื่

องจากการจ�ำกั

ดพื้

นที่

ท�

ำกิ

นของทางราชการ โฮมสเตย์

อาจ