งานวิจัยวัฒนธรรมภาคอีสาน
57
เสี
ยงในภาษาโส้
ได้
จั
ดแบ่
งเป็
นหน่
วยเสี
ยงพยั
ญชนะ หน่
วยเสี
ยงสระ ลั
กษณะ
น�้
ำเสี
ยงและโครงสร้างบริ
บท
ขณะเดี
ยวกั
น เอมอร ชื่
นชม (2542) ได้
ศึ
กษาเปรี
ยบเที
ยบค�
ำศั
พท์
ภาษาโส้
ใน
จั
งหวั
ดสกลนคร จั
งหวั
ดนครพนม และจั
งหวั
ดมุ
กดาหาร โดยได้ศึ
กษาผู้บอกภาษา
พบว่า ภาษาโส้ทั้
ง 3 ถิ่
น มี
การใช้ศั
พท์แบ่งออกเป็น 3 ประเภทคื
อ ประเภทที่
1
ศั
พท์เหมื
อนกั
นทั้
ง 3 ถิ่
น รวม 600 หน่วยอรรถ ประเภทที่
2 ใช้ศั
พท์แตกต่างกั
นทั้
ง
3 ถิ่
น รวม 345 หน่วยอรรถ และประเภทที่
3 ใช้ศั
พท์เหมื
อนกั
นบางส่วน ต่างกั
น
บางถิ่
น รวม 578 หน่
วยอรรถ และพบว่
าเมื่
อเปรี
ยบเที
ยบจ�
ำนวนศั
พท์
ที่
ชาวโส้
ใช้
นั้
น
มี
การเปลี่
ยนแปลงไปจากศั
พท์ดั้
งเดิ
มของภาษาโส้ 3 ถิ่
น จ�
ำนวน 883 หน่วยอรรถ
เราอาจจะสรุปได้
ว่า นั
กวิจัยหลายท่
านได้
แสดงให้
เห็นว่
าไทยโส้
เป็นกลุ่
ม
ของภาษาออสโตรเอเชี
ยติ
ค ที่
มี
ลั
กษณะของการใช้
ภาษาที่
มี
เอกลั
กษณ์
เฉพาะ โดย
ไทยโส้มี
แต่ภาษาพูดไม่มี
ภาษาเขี
ยน
อั
มพร ยะวรรณ (2543) ได้
ศึ
กษาชาวไทยแสกเต้
นสาก ซึ่
งเกี่
ยวข้
องกั
บ
กระบวนการขั
ดเกลาทางสั
งคมของกลุ
่
มชาติ
พั
นธุ
์
แสก บ้
านอาจสามารถ อ�
ำเภอเมื
อง
จั
งหวั
ดนครพนม นอกจากนี้
ยั
งพบว่า ชาวไทยแสกเต้นสากประกอบด้วยผู้เต้นสาก
ไม้
สากที่
ใช้
เต้
น เครื่
องดนตรี
ที่
ใช้
บรรเลง เพลงที่
ใช้
ร้
องประกอบเป็
นภาษาแสก
ประเพณีการเต้
นสากนี้
เป็
นกระบวนการขั
ดเกลาทางสั
งคมที่
มี
อิ
ทธิ
พลมาตั้
งแต่
วั
ยเด็
กจนถึ
งวั
ยชรา นอกจากนี้
อั
มพร ยะวรรณ (2543) ได้
บั
นทึ
กกระบวนการ
ขั
ดเกลาทางสั
งคม ซึ่
งเน้
นกรณี
หลั
กบ้
านอาจสามารถ ซึ่
งแสดงถึ
งการรั
กษาประเพณี
โดยมี
ลั
กษณะของกระบวนการขั
ดเกลาที่
มี
อิ
ทธิ
พลตั้
งแต่วั
ยเด็
กจนถึ
งวั
ยชรา ท�
ำให้
กระบวนการขั
ดเกลามี
ลั
กษณะที่
เอื้
อต่
อการรั
กษาศิ
ลปะและวั
ฒนธรรมเป็
นอย่
างยิ่
ง
ส�ำหรับธรรมศักดิ์ ชิตทรงสวัสดิ์ (2543) ได้ศึกษารูปแบบและคติความเชื่อ
ที่
ปรากฏในผลงานศิ
ลปะแบบอย่างจี
นในอ�
ำเภอเมื
อง จั
งหวั
ดร้อยเอ็
ด โดยถามว่า
ชาวจี
นเคลื่
อนย้
ายเข้
ามาอยู่
ในจั
งหวั
ดร้
อยเอ็
ด มี
อยู่
2 เส้
นทางคื
อ ทางแรกผ่
านทาง
จั
งหวั
ดนครราชสี
มา มหาสารคาม โดยอาศั
ยขบวนวั
งต่
างๆ และทางที่
สองผ่
านทาง