56
โสวัฒนธรรม
เปลี่
ยนแปลงพั
ฒนาการของเรื
อนพื้
นบ้านกะเลิ
ง
ส�
ำหรั
บศิ
วพร เตโช และ บุ
ญโฮม พรศรี
(2542) ได้
ศึ
กษาชาวไทยรูมี
ความช�
ำนาญ
การสานกระติ
บของชาวบรูของบ้
านท่
าแล้
ง กรรมวิ
ธี
ถ่
ายทอดจากบรรพชนสู่
ลูกหลาน
ส่
วนทรงคุ
ณ จั
นทรวร และคณะ (2536) ได้
ศึ
กษาเกี่
ยวกั
บผ้
าของชาวไทยโส้
มี
ประวั
ติ
ความเป็
นมาของผู้
ชาวโส้
โดยได้
พบว่
าประวั
ติ
ศาสตร์
ความเป็
นมาของผ้
าขาว
มี
หลายจุ
ดได้
แก่
ยุ
คโบราณ ยุ
คแลกเปลี่
ยนวั
ฒนธรรมการทอผ้
า และยุ
คพั
ฒนาการ
ทอผ้
าและยุ
คปั
จจุ
บั
น และมี
ขั้
นตอนดั
งนี้
คื
อ การปลูกฝ้
าย การเก็
บฝ้
าย การท�
ำ
เส้
นฝ้
าย การย้
อมสี
ฝ้
าย ซึ่
งเป็
นสี
ที่
ได้
จากธรรมชาติ
และมี
เทคนิ
ควิ
ธี
ในการทอผ้
า คื
อ
การทอผ้าสี่
เขา การทอผ้าขิ
ด การทอผ้าเก็
บ การทอผ้ามั
ดหมี่
และการผลิ
ตผ้าและ
มี
ลายผ้
า 2 ลั
กษณะคื
อ ลายที่
ได้
จากธรรมชาติ
และลายที่
ได้
จากอิ
ทธิ
พลของศาสนา
นอกจากนี้
พระมหาสุ
วรรณ์
วงษา (2543) ได้
ค้
นค�
ำในภาษาโส้
ที่
บ้
านดอนแดง
ต�
ำบลท่
าจ�
ำปา อ�
ำเภอท่
าอุ
เทน จั
งหวั
ดนครพนม ตั้
งแต่
การสร้
างค�
ำ ความหมายของค�
ำ
และระบบค�
ำ ได้
แบ่
งลั
กษณะค�
ำในภาษาโส้
ออกเป็
น 2 ลั
กษณะคื
อ ค�ำพยางค์
เดี
ยว
และค�
ำสองพยางค์ขึ้
นไป และยั
งได้ศึกษาชนิ
ดและหน้าที่
ของค�
ำไทยท�
ำการแยกค�
ำ
ออกเป็นชนิ
ดได้ 15 ชนิ
ดคื
อ ค�
ำนาม ค�
ำสรรพนาม ค�
ำกริ
ยา ค�
ำช่วยกริ
ยา ค�
ำหน้า
กริ
ยาและค�
ำหลั
งกริ
ยา ค�
ำกริ
ยาวิ
เศษณ์
ค�
ำคุ
ณศั
พท์
ค�
ำลั
กษณะนาม ค�
ำบอก
จ�ำนวน ค�ำชี้เฉพาะ ค�ำบอกเวลา ค�ำบุพบท ค�ำเชื่อม ค�ำปฏิเสธ และค�ำลงท้าย
ตลอดจนการเรี
ยงค�
ำในประโยค
เช่นเดี
ยวกั
บ สุ
รชั
ย ชิ
นบุ
ตร (2542) ได้ศึ
กษาชาวไทยโส้นครพนมกั
บภาษา
ที่ก�ำลังถูกลืม พบว่ามีชนบทไทยโส้อาศัยอยู่ในอ�
ำเภอท่าอุเทน อ�ำเภอโพนสวรรค์
อ�
ำเภอศรี
สงคราม อ�
ำเภอปลาปากและอ�
ำเภอนาแก โดยชาวไทยโส้
จะอาศั
ยปน
อยู่กั
บชนพื้
นเมื
องกลุ่มต่างๆ เช่น ย้อ แสกกะเลิ
ง ผู้ไทย และลาวโส้มี
ภาษาพูดแต่
ไม่มีภาษาเขียน จัดอยู่ในตระกูลภาษาออสโตเอเชียติก ปัจจุบันชาวโส้อยู่ใกลัชิด
กั
บคนอี
สานมาก ดั
งนั้
นประเพณี
และวั
ฒนธรรมต่
างๆ ตลอดจนการด�
ำเนิ
นชี
วิ
ต
เปลี่
ยนแปลงไปจากเดิ
มมาก เด็
กๆ จะพูดภาษาไทยได้
มากกว่
าภาษาโส้
ระบบ