52
โสวัฒนธรรม
มี
วิ
ถี
การด�
ำรงชี
วิ
ตที่
เรี
ยบง่
าย มี
น�้
ำใจงามโอบอ้
อมอารี
ยึ
ดมั่
นในพุ
ทธศาสนา รั
กษา
ศิ
ลปวั
ฒนธรรม โดยเฉพาะด้
านหั
ตถศิ
ลป์
เช่
นการทอผ้
าเป็
นมรดกของชาวอี
สาน ซึ่
ง
ลั
กษณะการทอผ้
าแบ่
งออกเป็
น 3 กลุ
่
ม คื
อกลุ
่
มชาติ
พั
นธุ
์
ลาวและเขมรนิ
ยมทอผ้
าไหม
และผ้
าฝ้
ายด้
วยวิ
ธี
การขิ
ดและมั
ดหมี่
ส่
วนกลุ
่
มชาติ
พั
นธุ
์
ผู้
ไทยนิ
ยมทอผ้
าด้
วยวิ
ธี
การขิ
ด
การศึ
กษาเปรี
ยบเที
ยบนิ
ทานพื้
นบ้านไทยลาว ไทยเขมร และไทยกวย โดย
วิ
จิ
ตรนาวั
น งามสะพรั่
ง (2543) พบว่
านิ
ทานพื้
นบ้
านทั้
งสามกลุ่
มชาติ
พั
นธุ์
มี
ลั
กษณะ
ร่วมกัน ด้านองค์ประกอบหลักและด้านบริบททางสังคมและวัฒนธรรมที่ส่งผลต่อ
นิ
ทาน การที่มีลักษณะทางวัฒนธรรมร่วมกันท�ำให้เห็นพื้นฐานวัฒนธรรมที่เหมือน
กั
น และสานสั
มพั
นธ์
ระหว่
างสั
งคม วั
ฒนธรรมที่
เกี่
ยวกั
บนิ
ทาน ส่
วนลั
กษณะที่
แตกต่
างกั
นคื
อ นิ
ทานลาวมี
ลั
กษณะเป็
นสั
งคมที่
เคร่
งครั
ดจารี
ต นิ
ทานเขมรเน้
นความ
เชื่
อทางไสยศาสตร์ และนิ
ทานชาติ
พั
นธุ์กวยเน้นความผูกสั
มพั
นธ์กั
บช้าง
นภดล ตั้
งสกุ
ล และ จั
นทนี
ย์
วงศ์
ค�
ำ (2540) ได้
ศึ
กษาคติ
ความเชื่
อและระบบ
สังคมในการปลูกสร้างบ้
านเรือนพื้นบ้
านของชุมชนผู้
ไทย ซึ่งได้
แสดงให้
เห็นความ
แตกต่างที่
สะท้อนให้เห็
นคติ
ความเชื่
อในวิ
ถี
ชี
วิ
ตและพฤติ
กรรม
ส�
ำหรั
บเส้นทางไหมอี
สานเขี
ยนโดย สุ
ทั
ศน์ รุ่งศิ
ริ
ศิ
ลป์ (2543) ชี้
ให้เห็
นอดี
ต
ความเป็นมาตั้
งแต่การย้อมสีคราม ผ้าขิ
ด ผ้ามั
ดหมี่
และผ้าแพรวา ซึ่
งยั
งคงรั
กษา
ประเพณี
อย่างเข้มแข็
ง
คมกริ
ช การิ
นทร์
(2542) ได้
ศึ
กษาดนตรี
ของชนผู้
ไทย จั
งหวั
ดกาฬสิ
นธุ
์
พบว่าส่วนใหญ่เป็นการเล่นเพื่
อความบั
นเทิ
ง เพื่
อประเพณี
ส�
ำหรั
บ ศุ
ภชั
ย สิ
งห์ยะบุ
ศย์ และคณะ (2546) ได้ศึ
กษารูปแบบศิ
ลปะและ
การจั
ดการผ้
าทอที่
ส่
งผลต่
อความเข้
มแข็
งและการพึ่
งตนเองของชุ
มชนท้
องถิ่
น
ดั
งนั้
นผ้
าไหมแพรวาของชาวผู้
ไทยมี
รูปแบบศิ
ลปะ 3 ลั
กษณะคื
อ ผ้
าทอล่
วง ผ้
าจกดาว
และผ้าเกาะ มี
ลั
กษณะการทอ ลวดลาย แตกต่างกั
น แต่มี
ก�
ำเนิ
ดมาจากผ้าแพรวา
แบบดั้
งเดิ
ม วิ
ธี
การใช้
นิ้
วเกาะ มี
ไหมสี
พื้
นคื
อสี
แดงเข้
ม และชาวผู้
ไทยใช้
เป็
น