งานวิจัยวัฒนธรรมภาคอีสาน
293
มุ
มมองทางสั
งคมที่
สะท้
อนผ่
านการบอกเล่
าด้
วยการล�ำ ในสั
งคมแต่
ละยุ
คสมั
ยเป็
น
อย่
างดี
ในอดี
ตกล่
าวกั
นว่
า หมอล�
ำเคน ดาเหลาเป็
นผู้
ที่
เล่
าเรื่
องราวผ่
านกลอนล�
ำที่
ได้
รั
บความสนใจมากที่
สุ
ดเพราะสามารถเล่
าเรื่
องราวประสบการณ์
จากสิ่
งที่
พบเห็
น
มาเป็
นกลอนล�
ำในการแสดงแต่
ละท้
องถิ่
นไดอย่
างกลมกลื
น ที่
เป็
นจุ
ดเด่
นในการ
ศึ
กษาหมอล�
ำคื
อ ได้
พบการศึ
กษาหมอล�ำในหลากหลายมิ
ติ
นั
บตั้
งแต่
อั
ตชี
วประวั
ติ
สาระความรู้
จากการแสดงหมอล�
ำ การสื
บทอดและการเปลี่
ยนแปลงหมอล�
ำใน
ยุ
คสมั
ยปั
จจุ
บั
น อย่
างไรก็
ตามประเด็
นที่
น่
าสนใจที่
ยั
งไม่
ปรากฏคื
อ งานวิ
จั
ยที่
เข้
าถึ
งแก่
นแกนของหมอล�
ำ กระบวนการเข้
าสู่
การเป็
นหมอล�
ำ แนวคิ
ดในการสื่
อสาร
ปฏิ
สั
มพั
นธ์
ระหว่
างหมอล�
ำผู้
แสดงดดยผ่
านกระบวนการสื่
อสารของผู้
ท�ำหน้
าที่
สื่
อกั
บ
ผู้ชมที่เป็นผู้รับสื่อ การศึกษาหมอล�ำในมิติของพัฒนาการทางด้านประวัติศาสตร์
วั
ฒนธรรม ตลอดจนกระบวนศึ
กษาบทบาทหน้าที่
หมอล�
ำในแต่ละช่วงเวลา
การแสดงและดนตรี
ของภูมิ
ภาคตะวั
นออกเฉี
ยงเหนื
อ มี
รากฐานมา
จากบทบาทหน้
าที่
ในพิ
ธี
กรรม ที่
ได้
พั
ฒนาการมาเป็
นศิ
ลปะการแสดงที่
เป็
นการ
นันทนาการ จากรูปแบบที่
เรี
ยบง่
ายได้
พั
ฒนาให้
มี
ความซั
บซ้
อนมากขึ้
น การมี
องค์
ประกอบที่
มากขึ้
นจากการบูรณาการศิ
ลปวั
ฒนธรรมของภูมิ
ภาคอื่
น งานวิ
จั
ยใน
กระแสหลั
กตลอดช่
วงทศวรรษที่
ศึ
กษา ให้
ความสนใจรูปแบบมากกว่
าบทบาทหน้
าที่
และความหมายเชิ
งสั
ญลั
กษณ์
ของดนตรี
และการแสดงที่
มี
ต่
อสั
งคม การใช้
ประโยชน์
จากดนตรี
ในพิ
ธี
กรรมและโอกาสต่าง อิ
ทธิ
พลจากสั
งคมภายนอกที่
มี
ผลต่อรูปแบบ
ของศิ
ลปะการแสดงและดนตรี
แนวคิ
ดและทฤษฎี
บทบาทหน้
าที่
การสื่
อสั
ญลั
กษณ์
และการสื่อสารจึ
งไม่
ได้
เป็
นประเด็
นที่ได้
รับการน�
ำมาวิ
เคราะห์
และประเมิ
นในการ
วิจัยในแต่ละผลงาน ส่วนที่ขาดหายไปในการมองศิลปะการแสดงคือการแสวงหา
ความรู้
ในมิ
ติ
ทางประวั
ติ
ศาสตร์
ภาพองค์
รวมของศิลปะการแสดงต่
อสั
งคม งาน
วิจัยที่จะเป็นแบบของการใช้วิธีวิทยาของการวิจัยทางวัฒนธรรมมีอยู่ค่อนข้างน้อย
เท่
าที่ปรากฏอยู่
ในช่วงนี้
คือการศึกษาศิลปะการแสดงหมอล�
ำ และหนั
งประโมทัย
ของสุ
ริ
ยา สมุ
ทคุ
ปต์
และคณะ ที่
ได้
ใช้
วิ
ธี
วิ
ทยาของการวิ
จั
ยทางมานุ
ษยวิ
ทยามา
เป็นมุ
มมองและการวิ
เคราะห์