Previous Page  269 / 318 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 269 / 318 Next Page
Page Background

268

โสวัฒนธรรม

5.4 พลังวัฒนธรรมในงานสถาปัตยกรรมและหัตถกรรม

งานสถาปั

ตยกรรมในภูมิ

ภาคตะวั

นออกเฉี

ยงเหนื

อ โดยส่

วนใหญ่

เป็

นการ

ศึ

กษาเชิ

งประวั

ติ

ศาสตร์

สถาปั

ตยกรรม ทั้

งส่

วนที่

เป็

นพั

ฒนาการและการศึ

กษา

คติ

ความเชื่

อที่

เกี่

ยวข้

องกั

บงานสถาปั

ตยกรรม ท่

ามกลางความหลากหลายทาง

วั

ฒนธรรมของกลุ

มชาติ

พั

นธุ

ความน่

าสนใจของงานสถาปั

ตยกรรมคื

อความ

หลากหลายทางรูปแบบและคติ

นิ

ยม ตลอดจนคติ

นิ

ยมของการสร้

างสถาปั

ตยกรรม

ของชุ

มชนแต่

ละกลุ

ม นพดล ตั้

งสกุ

ลและจั

นทนี

ย์

วงศ์

ค�

ำ (2546) ศึ

กษาถึ

งคติ

ความเชื่

และระบบสั

งคมกั

บการปลูกสร้

างเรื

อนพื้

นบ้

านและชุ

มชนผู้

ไทนั้น พบว่

า “คติ

ความเชื่อ” เป็นกลไกในการก�ำหนดกรอบแนวและระบบสังคมผ่านทางวัฒนธรรม

ประเพณี

และพิ

ธี

กรรมสะท้

อนในวิ

ถี

ชี

วิ

ตและพฤติ

กรรม แม้

ลั

กษณะทางกายภาพ

และชุ

มชนและบ้

านเรื

อนมี

ความแตกต่

างออกไปแต่

กระบวนแนวคิ

ดในการแสดง

ความหมาย การศึกษาของจันทนีย์ วงศ์ค�

ำ(2544) ศึกษาพัฒนาการของเรือนพื้น

บ้านกะเลิ

ง : กรณี

ศึ

กษาบ้านหนองหนาว จั

งหวั

ดมุ

กดาหาร เป็นการศึ

กษาค้นคว้า

เอกลักษณ์ในเรือนพื้นถิ่นเพื่อน�

ำไปสู่การศึกษาเรือนพื้นถิ่นร่วมสมัยมีความจ�

ำเป็น

ต้

องค้

นคว้

าถึ

งเนื้

อหาจากรากฐานแต่

ละชุ

มชนนั้นอย่

างแท้

จริ

งและมิ

อาจใช้

การ

อ้างอิงเพื่อใช้กับแหล่งที่ตั้งอื่นๆ ได้ เนื่องด้วยแต่ละพื้นที่ย่อมมีความแตกต่าง แม้

เพี

ยงเล็

กน้

อยก็

มี

ผลต่

อพั

ฒนาการของเรื

อนในแต่

ละชุ

มชนนั้

น การศึ

กษาพั

ฒนาการ

เรื

อนเป็

นแนวทางหนึ่

งที่

จะท�

ำให้

เกิ

ดองค์

ความรู้

และเข้

าใจถึ

งรูปแบบเรื

อนวิ

ถี

ชี

วิ

ความเป็

นอยู่

ตลอดจนลั

กษณะและข้

อก�

ำหนดต่

างๆ ที่

เกี่

ยวข้

องและยั

งขาดการน�

มาประยุ

กต์ใช้ในการสร้างสรรค์เพื่

อให้ได้เรื

อนที่

ผสมผสานของเรื

อนกะเลิ

ง บ้านหอ

นงหนาว อ�ำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร เพื่อมุ่งหมายให้เข้าใจถึงทิศทางและ

รูปแบบของพัฒนาการเรือนรวมถึงปัจจัยที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงนั้

นและเพื่อค้นหา

ว่าการสร้างเรื

อนในช่วงเวลาใดที่

สามารถสะท้อนลั

กษณะดั้

งเดิ

มของเรื

อนในชุ

มชน

โดยการใช้

กรอบศึ

กษาที่

ยึ

ดกั

บระยะเวลาการสร้

างเรื

อนเป็

นหลัก ซึ่งแบ่

งออกเป็

3 ช่วงเวลา คื

อ เรื

อนกลุ่มใหม่ (0-30 ปี)