Previous Page  260 / 318 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 260 / 318 Next Page
Page Background

งานวิจัยวัฒนธรรมภาคอีสาน

259

บทบาทการท�

ำงานของ หมอล�

ำฉวี

วรรณ ด�

ำเนิ

น ศิ

ลปิ

นแห่

งชาติ

สาขาศิ

ลปะ

การแสดงพื้

นบ้านโดย ศิ

ราภรณ์

ปทุ

มวั

น (2542) ในการสร้างเสริ

มการเป็นนั

กแสดง

จนท�

ำให้

มี

ชื่

อเสี

ยงได้

รั

บการยอมรั

บจากมหาชน บทบาทด้

านการถ่

ายทอดศิ

ลปะ

พื้นบ้าน แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ การถ่ายทอดศิลปะด้านนาฏศิลป์พื้นบ้าน

อี

สานและการถ่

ายทอดศิ

ลปะการล�

ำมี

ลูกศิ

ษย์

เป็

นนั

กศึ

กษาในสถาบั

นการศึ

กษา

หลายแห่

ง โดยเฉพาะวิ

ทยาลั

ยนาฏศิ

ลป์

มี

ความสามารถในการแต่

งกลอนล�ำทางสั้

กลอนล�ำทางยาวและล�ำเต้

ย เช่

นเดียวกั

บ การศึกษาภูมิ

ปั

ญญาทางคี

ตศิ

ลป์

ของ

หมอล�

ำ ป.ฉลาดน้

อย (ชั

ยนาทร์

มาเพ็

ชร : (2545)) ในด้

านเสี

ยง ค�ำร้

อง จั

งหวะ การ

หายใจ อารมณ์ และองค์ประกอบในการล�

ำ ด้านรูปแบบการประพั

นธ์ ศิ

ลปะการ

ใช้ภาษา พบว่าคี

ตศิ

ลป์ในกลอนล�

ำของหมอล�

ำ ป.ฉลาดน้อย แบ่งเป็น 6 ประเภท

คื

อ เสี

ยงของหมอล�

ำ ป.ฉลาดน้อยเป็นเสี

ยงที่

ชั

ดเจน เสี

ยงแคนออกถ้อยค�

ำชั

ดเจน

ล�

ำได้

เต็

มเสี

ยงระดั

บเสี

ยงสม�่ำเสมอ มี

ก�

ำลั

งเสี

ยงมาก ก�

ำหนดลมหายใจยาว ค�ำร้

อง

มี

ความหมายของค�

ำชั

ดเจน ความดั

งของเสี

ยงเอื้

อนท�

ำให้

ผู้

ฟั

งไดยิ

นเสี

ยงสระชั

ดเจน

จั

งหวะในการล�

ำสม�่

ำเสมอเข้

ากั

บเสี

ยงแคน การหายใจการแบ่

งวรรคหายใจสามารถ

หายใจลึ

กเสี

ยงมี

ความยาว สื่

อความรู้สึ

กทางอารมณ์ได้ดี

เนื้

อหากลอนล�

ำจะสอน

ชายหญิ

งมากที่

สุ

ด้

านการถ่

ายทอดและสื

บทอด จิ

ราวั

ลย์

ซาเหลา (2546) ศึ

กษาเกี่

ยวกั

กระบวนการเรี

ยนรู้

และการถ่

ายทอดศิ

ลปะการแสดงของหมอล�

ำอาชี

พ พบว่

กระบวนการเรี

ยนรู้

ของศิ

ลปิ

นหมอล�

ำทุ

กอาชี

พแขนง จะมี

กระบวนการเรี

ยนรู้

ที่

คล้ายคลึ

งกั

น คื

อ ผู้เรี

ยนต้องมี

ใจรั

ก บิ

ดามารดาเป็นหมอล�

ำ และฐานะครอบครั

ยากจนต้

องการหารายได้

โดยเริ่

มจากเรี

ยนรู้

จากการไปแสวงหาครูผู้

สอนและสมั

คร

เป็

นลูกศิ

ษย์

ทดสอบน�้ำเสี

ยง ฝึ

กซ้

อมร่

วมกั

บผู้

อื่น ตลอดจนฝึ

กฝนพัฒนาตัวเอง

อย่างต่อเนื่อง ส�

ำหรับกระบวนการถ่ายทอดของศิลปินหมอล�

ำอาชีพนั้

น มีวิธีการ

ถ่ายทอดตามที่

ตนเองได้ฝึกฝนและเรี

ยนรู้มา

ในยุ

คร่

วมสมั

ยที่

หมอล�

ำมี

การปรั

บตั

วและเปลี่

ยนแปลง แก้

วตา จั

นทรานุ

สรณ์

(2546) ศึ

กษาเกี่

ยวกั

บการวิ

เคราะห์การเปลี่

ยนแปลงโลกทั

ศน์และปัจจั

ยที่

ท�

ำให้เกิ