งานวิจัยวัฒนธรรมภาคอีสาน
257
ส่
วนใหญ่
มั
กจะเป็
นในลั
กษณะการขั
บร้
องหรื
อศิ
ลปะการใช้
เสี
ยงประกอบการแสดง
ดั
งเช่นการแสดงหมอล�
ำประเภทต่างๆ เช่น หมอล�ำหมู่ หมอล�
ำเพลิ
น เป็นต้น ซึ่
ง
นอกจากที่
กล่าวมาแล้วนี้
ยั
งมี
การแสดงอี
กประเภทหนึ่
งที่
เรี
ยกว่า การฟ้อน ซึ่
งการ
ฟ้อนของชาวอี
สานนั้
น เป็นการคิ
ดประดิ
ษฐ์ขึ้
นจากท่าทางลี
ลาต่างๆ ซึ่
งมาจากท่า
ที่
มี
มาแต่ดั้
งเดิ
ม หรื
อเลี
ยนแบบจากอากั
ปกิ
ริ
ยาของร่างกายต่างๆ ตามธรรมชาติ
ที่
มี
อยู่ทั้
งจากคน สั
ตว์ หรื
อจากจิ
นตนาการ โดยพยายามคิ
ดดั
ดแปลงให้มี
ลี
ลาอ่อน
ช้
อยสวยงาม เช่
น ท่
ายูงล�
ำแพน ท่
าสาวปะแป้
ง ท่
าล�
ำเพลิ
น ท่
าหงส์
บิ
นเวิ
น เป็
นอาทิ
การน�
ำอาการของสิ่
งต่างๆ ดั
งกล่
าวนี้
มาประยุ
กต์ใช้ ชาวอี
สานเรี
ยกว่า การ
ฟ้
อน ซึ่
งการฟ้
อนนั้
นในอดี
ตดั้
งเดิ
มนั้
นจะเป็
นการน�
ำไปประกอบการเซิ้
งต่
างๆ โดยจะ
มี
บทขั
บเรี
ยกว่
า กาพย์
เซิ้
ง เช่
น เซิ้
งบั้
งไฟ เซิ้
งนางแมว เซิ้
งนางด้
ง เป็
นต้
น ครั้
นต่
อมา
จึ
งได้
มี
การน�
ำเอาดนตรี
เข้
าไปประกอบในการฟ้
อนด้
วย และได้
มี
การประดิ
ษฐ์
ท่
าฟ้
อนจากท่
าพื้
นบ้
านให้
สวยงามมากขึ้
น ทั้
งนี้
เพื่
อให้
สอดคล้
องในท่
วงท�
ำนองและ
จั
งหวะของดนตรี
ที่
น�ำมาประกอบ ซึ่
งปั
จจุ
บั
นจะเห็
นว่
าการฟ้
อนประกอบดนตรี
ของ
อี
สานมี
อยู่หลายชุ
ด เช่น ฟ้อนแพรวา ฟ้อนภูไท 3 เผ่า ฟ้อนบายศรี
เป็นต้น
ส�
ำหรั
บดนตรี
พื้
นบ้
านอี
สานนั้
นส่
วนใหญ่
เกิ
ดจากประสบการณ์
ในกิ
จวั
ตร
ความเป็
นอยู่
ในวิ
ถี
ชี
วิ
ตประจ�
ำวั
น อั
นเกิ
ดจากการประกอบอาชี
พประจ�
ำฤดูกาล
ต่
างๆ เช่
น การจั
บสั
ตว์
น�้ำ สั
ตว์
บก การท�
ำไร่
ไถนา หรื
อสั
มพั
นธ์
เกี่
ยวข้
องกั
บประเพณี
พิ
ธี
กรรมและความเชื่
อ ตลอดจนสะท้
อนให้
เห็
นถึ
งความสนุ
กสนานเพลิ
ดเพลิ
นอั
นเกิ
ด
จากอุปนิสัยใจคอท่ามกลางวิถีชีวิตของสังคมอีสาน ทั้งนี้ในส่
วนของลักษณะของ
ดนตรีพื้นบ้
านอีสานจะมี
ความแตกต่
างกั
นไปตามกลุ่
มวัฒนธรรมของท้
องถิ่
นนั้
นๆ
กล่าวคื
อ กลุ่มวั
ฒนธรรมไทย - ลาว (อี
สานเหนื
อ) และกลุ่มวั
ฒนธรรมไทย - เขมร
(อีสานใต้) ซึ่งจะมีความแตกต่างทางด้านสุ้มเสียง ส�ำเนียงดนตรีตลอดจนรูปแบบ
ซึ่
งจะมี
ความเป็นเอกลั
กษณ์เฉพาะแตกต่างกั
นไป เช่น ท�
ำนอง ทางอี
สานเหนื
อจะ
เรี
ยกว่า ลายเพลง ส่วนทางอี
สานใต้จะเรี
ยกว่า บอดเพลง เป็นต้น