งานวิจัยวัฒนธรรมภาคอีสาน
251
การศึ
กษาองค์
ประกอบของจิ
ตรกรรมฝาผนั
งของ เพ็
ญผกา นั
นทดิ
ลก (2541)
เรื่
องมหาเวสสั
นดรชาดกตามลั
กษณะแนวคิ
ด รูปทรง หลั
กและวิ
ธี
การเขี
ยนภาพ
ตลอดจนคุ
ณค่
าของจิ
ตรกรรมในวิ
ถี
ชี
วิ
ตของชาวบ้
านยาง พบว่
าภาพจิ
ตรกรรม
เรื่องมหาเวสสันดรชาดกเมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆ บนผนั
งสิมด้านนอกมีจ�
ำนวนภาพ
มากกว่าเรื่
องอื่
น เขี
ยนขึ้
นโดยชาวบ้านและพระสงฆ์เมื่
อ พ.ศ.2465 เพื่
อเป็นเครื่
อง
บูชาคุณพระศรีรัตนตรัย การจัดองค์ประกอบของภาพนั้
นได้จัดเรื่องมหาเวสสันดร
ชาดกเป็น 13 กั
ณฑ์ โดยเรี
ยงจากซ้ายไปขวา และพบว่าจิ
ตรกรรมฝาผนั
งเรื่
องมหา
เวสสันดรชาดก สิมวัดบ้
านยาง สัมพันธ์
กับประเพณี
การท�
ำบุญมหาชาติของชาว
บ้
านซึ่
งกระท�ำในเดื
อนสี่
ทุ
กปี
ส่
วนการศึ
กษาองค์
ประกอบของจิ
ตรกรรมซึ่
ง ประเทศ
ปัจจังคะตา (2541) ภาพสะท้อนที่ปรากฏในภาพจิตรกรรมฝาผนั
งสิมวัดป่
าเรไรย์
จั
งหวั
ดมหาสารคาม พบว่
าจิ
ตรกรรมฝาผนั
งภายในสิ
มเป็
นเรื่
องราวพุ
ทธประวั
ติ
และภายนอกเป็นพุ
ทธศาสนนิ
ทาน การก�
ำหนดองค์ประกอบในการสร้างจิ
ตรกรรม
ภายในจะก�
ำหนดบนบริ
เวณระหว่
างช่
องว่
างระหว่
างห้
อง ส่
วนภายนอกจะเรี
ยงล�
ำดั
บ
จากขวาไปซ้าย การสร้างจิ
นตนาการนี้
สะท้อนให้เห็
นถึ
งความเป็นอยู่ของชาวบ้าน
สถาปั
ตยกรรมสิ
มหรื
ออุ
โบสถจากงานของ ศิ
ริ
พั
นธ์
ตาบเพ็
ชร (2541)
ที่
พบว่
า ในภาคอี
สานมี
สถาปั
ตยกรรมพื้
นถิ่
นที่
น่
าสนใจ คื
อ สิ
มหรื
ออุ
โบสถ มี
รูปแบบ
เฉพาะตั
วที่
มั
กสร้
างให้
มี
ขาดเล็
กกะทั
ดรั
ดเพี
ยงพอแก่
ประโยชน์
ใช้
สอยในการ
ประกอบพิ
ธี
กรรมส�
ำหรั
บพระภิ
กษุ
ประมาณ 6-10 รูปเท่
านั้
น แสดงถึ
งความเรี
ยบง่
าย
และสมถะ สิ
มตามประเพณี
ดั้
งเดิ
มของชาวอี
สานมี
สองรูปแบบคื
อ สิ
มโปร่
ง
กับสิมทึบ ซึ่งสิมทึบนี้เองที่ปรากฏศิลปกรรมพื้นถิ่นที่มีเสน่ห์ยิ่ง นั่
นคือการประดับ
ตกแต่งด้วยภาพเขี
ยนทั้
งบนผนั
งด้านนอกและด้านใน ภาพเขี
ยนนี้
เรี
ยกว่า ฮูปแต้ม
ในส่วนประดับของสถาปตยกรรมทางศาสนา ช�
ำนาญ เล็กบรรจง (2545) ศึกษา
ลั
กษณะและรูปแบบลวดลายประดั
บสถาปั
ตยกรรมทางศาสนาในภาคอี
สาน พบว่
า
ลั
กษณะของลวดลายประดั
บสถาปั
ตยกรรมทางศาสนาเป็
นลวดลายที่
ช่
างได้
แนวคิ
ด
จากธรรมชาติ
และลายไทยถ่
ายทอดสื
บต่
อกั
นมาแบบตระกูลชั่
งสามารถประยุ
กต์
ดั
ดแปลงให้เหมาะสมกั
บลั
กษณะสถาปัตยกรรมไทยได้ดี
การเรี
ยกชื่
อลวดลายและ