248
โสวัฒนธรรม
5.2 ศิลปกรรม ศิลปะและสุนทรียศาสตร์
ในช่
วงทศวรรษที่
ผ่
านมา งานด้
านศิ
ลปกรรมร่
วมสมั
ยไม่
ค่
อยเด่
นชั
ดนัก
ถึงแม้ว่าจะมีสถาบันการศึกษาที่สอนศิลปกรรมร่วมสมัยในระดับอุดมศึกษาหลาย
แห่
ง ทั้
งสถาบั
นราชมงคล สถาบั
นราชภั
ฏ รวมทั้
งสถาบั
นการศึ
กษาหลั
กของภูมิ
ภาค
เช่น มหาวิทยาลัยมหาสารคามและมหาวิทยาลัยขอนแก่น อาจเนื่องจากสถาบัน
การศึ
กษาหลั
กทั้
งสองแห่
ง เพิ่
งเริ่
มจั
ดตั้
งและยั
งอยู่
ระหว่
างการเริ่
มต้
นสั่
งสมงานวิ
จั
ย
ศุ
ภชั
ย สิ
งห์
ยะบุ
ศย์
(2541) ศึ
กษาเกี่
ยวกั
บศิ
ลปะสมั
ยใหม่
ในภาคอี
สานในสามทศวรรษ
พบว่า ความโดดเด่นของขบวนการกลุ่มศิ
ลปินไท-อี
สาน คื
อการมี
ฐานที่
มั่
นคงด้าน
วิ
ชาการจากคณาจารย์
ศิ
ลปะแทบทุ
กสถาบั
นโดยเฉพาะมหาวิ
ทยาลั
ยมหาสารคาม
กับมหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงส่งผลต่อความมั่นคงในก้าวย่างที่ชัดเจนต่อการช่วย
ขยายองค์กรกลุ่มศิ
ลปินและพั
ฒนาวงการศิ
ลปะสมั
ยใหม่ให้คงอยู่ในภูมิ
ภาคแห่งนี้
ได้และมี
การเปิดโอกาสให้ศิ
ลปินทุ
กรุ่นได้เข้ามาร่วมภารกิ
จศิ
ลปินไท-อี
สาน
นอกจากนั้
น ธีระวัฒน์ คะนะมะ (2545) ได้กล่าวถึงผลงานภาพเขียนเพื่อ
การเชิ
ดชูเกี
ยรติ
ศิ
ลปิ
นของอี
สาน ซึ่
งข้
อเขี
ยนนี้
เป็
นค�ำที่
ส�
ำแดงทั
ศนะแห่
งหลั
กคิ
ดถึ
ง
คุ
ณค่
าผลงานและเชิ
ญชวนให้
สั
มผั
สรั
บรสที่
สุ
นทรี
ยะร่
วมกั
น แรงบั
นดาลใจขิ
งผลงาน
นั้
นทั้
งหมดมาจากสภาพแวดล้
อมรอบตั
ว ตั้
งแต่
มวลมาลี
เกสรสวยจนถึ
งกอหนามร้
าย
จากต�่
ำเตี้
ยตามดิ
นหรื
อซากอิ
ฐแดง ก�
ำแพงพั
งจนสูงเสี
ยดเที
ยมฟ้
าเกยก่
ายเมฆา
ทุกอย่
างได้
ถูกบั
นทึ
กไว้
ตลอดช่
วงวั
ยของศิ
ลปิ
นตั้
งแต่
อดีตจวบจนปั
จจุ
บั
น ในงาน
ทุ
กชิ้
นจึ
งได้
ส�ำแดงตนตามล�ำดั
บกระบวนการและพรรณนาอารมณ์
ได้
อย่
างหมดจด
ไม่มี
เท็
จ รวมทั้
งหลั
กเหลี่
ยม
การรวมผลงานเพื่อเชิดชูเกียรติศิลปินท้องถิ่น เริ่มปรากฏในช่วงทศวรรษนี้
สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน (2545) จัดงานเชิดชูเกียรติศิลปินพื้นบ้าน
อี
สาน เนื่
องในวั
นศิ
ลปิ
นแห่
งชาติ
24 กุ
มภาพั
นธ์
(2545) สถาบั
นวิ
จั
ยศิ
ลปะและ
วั
ฒนธรรมอี
สาน มหาวิ
ทยาลั
ยมหาสารคาม ได้
จั
ดโครงการวั
นศิ
ลปิ
นพื้
นบ้
านอี
สาน
แห่
งชาติ
ขึ้
นเพื่
อประกาศยกย่
องเชิ
ดชูเกี
ยรติ
โดยศิ
ลปิ
นพื้
นบ้
านอี
สานที่
ได้
รั
บการ
คั
ดเลื
อกมี
จ�
ำนวน 8 ท่
าน คื
อ นายทวี
รั
ชนี
กร และนายธี
ระวั
ฒน์
คะนะมะ สาขาทั
ศนศิ
ลป์