Previous Page  207 / 318 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 207 / 318 Next Page
Page Background

206

โสวัฒนธรรม

2. พลังชุมชน

มี

ผลงานวิ

จั

ยที่

เกี่

ยวข้

องกั

บพลั

งชุ

มชนจ�ำนวน 14 เรื่

อง

เช่น ผลงานวิจัยของวิเวศ ศรีพุทธา (2541) การพัฒนาคุณภาพและบทบาทผู้น�

สตรี

ระดั

บหมู่บ้านเพื่

อการพั

ฒนาชุ

มชน จั

งหวั

ดหนองคาย พบว่าลั

กษณะส�

ำคั

ญที่

แสดงถึ

งการเป็นผู้น�

ำสตรี

ที่

มี

คุ

ณภาพ ได้แก่การเป็นผู้มี

ความจงรั

กภั

กดี

ต่อสถาบั

ชาติ

ศาสนา พระมหากษั

ตริ

ย์

ไม่

มั่

วสุ

มอบายมุ

ข ซื่

อสั

ตย์

สุ

จริ

ต จริ

งจั

งในการ

ท�

ำงาน รั

บผิ

ดชอบต่

อหน้

าที่

และเป็

นผู้

มี

สุ

ขภาพจิ

ตดี

ผลงานของพระมหาชูศั

กดิ์

น้

อยสั

นเที

ยะ (2545) บทบาทพระสงฆ์

ในการพั

ฒนาชนบทในภาคตะวั

นออก

เฉี

ยงเหนื

อ พบว่

าพระสงฆ์

มี

บทบาทตามอุ

ดมคติ

ทางศาสนา มี

การเผยแผ่

การ

อบรมสั่

งสอนศี

ลธรรม เป็

นผู้

น�

ำด้

านพิ

ธี

กรรมทางศาสนาส่

วนบทบาทตามความ

รู้สึ

ก ได้แก่ ด้านการพั

ฒนาจิ

ตใจ เศรษฐกิ

จ สั

งคม วั

ฒนธรรมและสิ่

งแวดล้อมแก่

ชุมชนอยู่ในระดับมาก และผลงานของโสพิศ หมัดป้องตัว (2546) ปัจจัยส่งเสริม

ความเข้

มแข็

งให้

กลุ

มผู้

รั

บงานไปท�

ำที่

บ้

านในภาคตะวั

นออกเฉี

ยงเหนื

อพบว่

สมาชิ

กกลุ

ม ผู้

น�

ำกลุ

ม และเจ้

าหน้

าที่

ที่

เกี่

ยวข้

องกั

บกลุ

มผู้

รั

บงานไปท�

ำที่

บ้

านมี

ความคิดเห็นต่อปัจจัยที่ส่งเสริมความเข้มแข็งแตกต่างกันไปบ้าง สมาชิกกลุ่มเห็น

ว่าปัจจัยที่ส�

ำคัญที่สุดคือผู้น�

ำกลุ่มเป็นผู้มีบทบาทส�

ำคัญที่สุดในการส่งเสริมความ

เข้

มแข็

งให้

กลุ

มทุ

กขั้

นตอนการด�

ำเนินงานของกลุ

ม ทั้

งนี้

เนื่

องจากกลุ

มผู้

รั

บงาน

ไปท�

ำที่

บ้

านเป็

นก�

ำลั

งแรงงานนอกระบบ การเอาใจใส่

กั

นเองระหว่

างผู้

น�

ำกั

สมาชิ

กกลุ

มมี

ความจ�

ำเป็

นและสมาชิ

กต้

องการ นอกเหนื

อค่

าตอบแทนที่

กลุ

ได้

รั

บคื

อคุ

ณค่

าทางสั

งคม ที่

ผู้

รั

บงานไปท�

ำที่

บ้

านมี

โอกาสดูแลครอบครั

วไม่

ต้

อง

ย้ายถิ่

นฐานไปหางาน มี

ทั

กษะได้รั

บความรู้ใหม่ๆ โดยผลการวิ

จั

ยพบว่า นอกเหนือ

จากกลุ

มผู้

น�ำชุ

มชนที่

ถื

อว่

าเป็

นผู้

มี

บทบาทส�ำคั

ญในการสร้

างความเข้

มแข็

งให้

แก่

ชุ

มชนแล้

ว กลุ

มพระสงฆ์

และกลุ

มสตรี

ก็

ถื

อได้

ว่

าเป็

นผู้

มี

บทบาทส�

ำคั

ญในการ

ระดมพลั

งมวลชนให้

ออกมามี

ส่

วนร่

วมในการพั

ฒนาชุ

มชนให้

มี

ความเจริ

ญก้

าวหน้

มี

คุ

ณภาพชี

วิ

ตและการบริ

การด้านสวั

สดิ

การต่างๆ ในชุ

มชนได้เป็นอย่างดี

ยิ่

โดยเฉพาะอย่

างยิ่

งพระสงฆ์

ถื

อได้

ว่

าเป็

นผู้

มี

บทบาทส�

ำคั

ญในการให้

ค�ำปรึกษาและประสานงานกับประชาชนหรือหน่วยงานต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้