Previous Page  210 / 318 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 210 / 318 Next Page
Page Background

งานวิจัยวัฒนธรรมภาคอีสาน

209

: กรณี

ศึ

กษาวั

ดป่

าบ้

านชาด จั

งหวั

ดกาฬสิ

นธุ์

โดยสามารถจั

ดหมวดหมู่

ของการวิ

จั

เกี่

ยวกั

บสิ่

งแวดล้อมได้ 3 กลุ่มใหญ่คื

1. ทรัพยากรธรรมชาต

ประกอบด้

วยทรั

พยากรป่

าไม้

และทรัพยากรน�้

กรณี

การศึ

กษาวิ

จั

ยเกี่

ยวกั

บป่

าไม้

นั้

น ส่

วนใหญ่

จะให้

ความส�

ำคั

ญเกี่

ยวกั

บการจั

ดการ

ป่

าชุ

มชน ซึ่

งจะกล่

าวถึ

งพั

ฒนาการของป่

าชุ

มชนว่

ามี

พั

ฒนาการส�

ำคั

ญ 2 ระยะ คื

ยุ

คที่

สั

งคมเป็

นบ้

านป่

า สภาพป่

าไม้

มี

ความอุ

ดมสมบูรณ์

ถื

อได้

ว่

าป่

าเป็

นปั

จจั

ยส�

ำคั

ต่

อวิ

ถี

ชาวบ้

านอย่

างแท้

จริ

ง ชาวบ้

านสามารถเข้

าไปเก็

บเกี่

ยวผลประโยชน์

จากป่

าได้

อย่างเต็

มที่

มี

อิ

สระ ระบบความเชื่

อเรื่

องพระภูมิ

เจ้าที่

ผี

ปู่ตาจะช่วยป้องกั

นป่าไม้ไม่

ให้ถูกท�

ำลาย ด้วยเกรงว่าถ้าตั

ดไม้จากป่าจะถูกปู่ตาลงโทษต้องมี

อั

นเป็นไป ป่าไม้

ในชุมชนจึงไม่

ถูกท�

ำลาย ในยุคต่

อมาเรียกว่

ายุคบุกเบิกป่

า ซึ่งมีผลมาจากการใช้

แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในการพยายามที่จะพัฒนาให้ประเทศมี

ความเจริ

ญก้

าวหน้

า พั

ฒนาคุ

ณภาพชี

วิ

ตของประชาชนให้

ดี

ขึ้

น รั

ฐมี

นโยบายส่

งเสริ

ให้เกษตรกรปลูกพืชเศรษฐกิจในเชิงพาณิ

ชย์ จากผลพวงดังกล่าวท�ำให้ประชาชน

หั

นมาแผ้วถางป่าเพี

ยงเพื่

อต้องการพื้

นที่

ในการเพาะปลูก จึ

งท�

ำให้ป่าไม้ถูกท�

ำลาย

ลงอย่

างรวดเร็

ว เมื่

อป่

าไม้

ถูกท�

ำลายอย่

างรวดเร็

วก็

ส่

งผลกระทบต่

อวิ

ถี

ชี

วิ

ตและ

สิ่

งแวดล้

อมต่

างๆ อย่

างมากมาย เช่

น ฝนไม่

ตกถูกต้

องตามฤดูกาล อุ

ณหภูมิ

โลกสูง

ขึ้

น วิ

ถี

ชี

วิ

ตของชุ

มชนเปลี่

ยนแปลงไป ฯลฯ

ดั

งนั้

นรั

ฐจึ

งได้

เข้

ามาจั

ดการป่

าไม้

โดยตรง มี

การตรากฎหมายมาบั

งคั

บใช้

มี

เจ้าหน้าที่

มี

หน่วยงานเข้ามารั

บผิ

ดชอบมากขึ้

น แต่ก็

ไม่สามารถแก้ปัญหาป่าไม้ได้

ทั้

งหมด ฉะนั้

นชุ

มชนจึ

งต้

องเข้

าไปมี

บทบาทในการจั

ดการป่

าไม้

ในลั

กษณะป่

าชุ

มชน

ซึ่

งเป็

นการร่

วมแรงร่

วมใจกั

นของพระสงฆ์

คณะกรรมการหมู่

บ้

านและชาวบ้

าน

ร่

วมกั

นก�

ำหนดระเบี

ยบกฎเกณฑ์

ในการใช้

ประโยชน์

จากป่

าและร่

วมกั

นสร้

าง

จิ

ตส�

ำนึ

กให้

ชุ

มชนเห็

นความส�

ำคั

ญของป่

า โดยน�

ำเอากระบวนทางสั

งคมและ

วั

ฒนธรรมประเพณี

มาเป็

นเครื่

องมื

อในการอนุ

รั

กษ์

ป่

า อย่

างเช่

นกิ

จกรรมการบวช

ต้นไม้ เป็นต้น