งานวิจัยวัฒนธรรมภาคอีสาน
203
เฉยๆ เพราะไม่ได้ขายแรงงานเป็นอาชีพหลัก หากแต่เข้ามาขายแรงงานเพียงเพื่อ
เป็นอาชีพเสริม หรือเข้ามาหาประสบการณ์ เมื่อมีสภาพกลายเป็นคนตกงานก็ยัง
มี
อาชี
พภาคการเกษตรรองรับจึ
งไม่รู้สึ
กเสี
ยใจมากมายแต่อย่างใด
การวิ
จั
ยการเปลี่
ยนอาชี
พจากภาคการเกษตรไปสู่
ภาคแรงงาน มี
ผลกระทบ
โดยรวม คื
อ
ผลดี
ได้รั
บประสบการณ์มากขึ้
น มี
ความรู้มี
ทั
กษะสูงขึ้
น และที่
ส�
ำคั
ญ
คือมีรายได้เพิ่มขึ้นส่วนผลเสีย
ท�ำให้ขาดแรงงานในท้องถิ่น สมองไหล ค่าใช้จ่าย
ฟุ่
มเฟื
อย เกิ
ดปั
ญหาสั
งคม/ปั
ญหาครอบครั
ว สูญเสี
ยเอกลั
กษณ์
ทางวั
ฒนธรรมของ
ท้องถิ่
น
6. ความพึงพอใจของนายจ้าง
ผลการวิ
จั
ยปรากฏว่
า นายจ้
างมี
ความ
พึงพอใจในแรงงานหญิงมากกว่าแรงงานชายโดยเฉพาะในด้านความขยัน ตรงต่อ
เวลา การท�
ำงานตามค�
ำสั่
งของนายจ้
างได้
ปราณี
ตกว่
า มี
มนุ
ษยสั
มพั
นธ์
ต่
อส่
วนรวม
และนายจ้างดี
กว่า ตลอดจนไม่เปลี่
ยนแรงงานบ่อย
7. ความตระหนักของแรงงานต่อความปลอดภัย
ผลการวิ
จั
ยพบว่
า
คนงานส่
วนใหญ่
มี
ความตระหนั
กต่
อสุ
ขภาพและความปลอดภั
ยอยู่
ในเกณฑ์
ต�่
ำ
ไม่มีการเตรียมป้องกันภัยอันตรายที่อาจเกิดจากการท�
ำงานไว้ล่วงหน้า และเมื่อมี
อุ
บั
ติ
เหตุ
ถ้าไม่รุ
นแรงจนเกิ
นไปก็
จะรั
กษาตั
วเองตามมี
ตามเกิ
ดไม่ไปพบหมอหรื
อไป
โรงพยาบาล
4.3 การพัฒนาชุมชน
ในรอบทศวรรษที่
ผ่
านมา (2535-2545) มี
ผลงานเกี่
ยวกั
บการพั
ฒนา
ชุ
มชนจ�
ำนวน 41 เรื่
อง เช่
นผลงานของไพบูลย์
ด่
านวิ
รทั
ย (2535) เรื่
องการใช้
ทรั
พยากรธรรมชาติ
กั
บความขั
ดแย้
งทางสั
งคม : พลวั
ตของการเป็
นนิ
คกั
บทางเลื
อก
ทางพั
ฒนา ผลงานวิ
จั
ยของสถาบั
นวิ
จั
ยสั
งคม จุ
ฬาลงกรณ์
มหาวิ
ทยาลั
ย (2535) การ
ใช้ทรัพยากรธรรมชาติกับความขัดแย้งทางสังคม : พลวัตของการเป็
นนิ
คกับทาง
เลื
อกทางพั
ฒนา สุ
วิ
ทย์ ธี
รศาศวั
ตและคณะ (2538) เรื่
องป่าชุ
มชน (ป่าวั
ฒนธรรม)