Previous Page  206 / 318 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 206 / 318 Next Page
Page Background

งานวิจัยวัฒนธรรมภาคอีสาน

205

ชุ

มชนมี

ความผูกพั

นอย่

างแน่

นแฟ้

น และยึ

ดถื

อความเชื่

อดั้

งเดิ

มเกี่

ยวกั

การใช้

ทรั

พยากรป่

าไม้

และยึ

ดถื

อประเพณี

ดั้

งเดิ

ม สตรี

ในชุ

มชนนี้

มี

สภาพเป็

นแม่

เมี

ย และลูกสาวใน 3 บทบาทคื

อ เป็นแม่ศรี

เรื

อน หารายได้เสริ

มให้ครอบครั

ว เป็น

แรงงานของครอบครั

วในการท�

ำการเกษตร มโนทั

ศน์

ด้

านการพั

ฒนาและอนุ

รั

กษ์

ทรั

พยากรธรรมชาติ

มี

ความชั

ดเจน และเข้

มแข็

งมากเนื่

องจากมี

ความใกล้

ชิ

ดกั

สมาชิ

กในชุ

มชน

สมพันธ์

เตชะอธิก (2540) วิจัยเรื่อง การพัฒนาความเข้

มแข็งขององค์

กร

ชาวบ้าน งานชิ้

นนี้

ศึ

กษาเกี่

ยวกั

บองค์กรชาวบ้านในชนบทที่

ส่วนใหญ่มี

อาชี

พทาง

เกษตรกรรม เพื่

อผลั

กดั

นให้

หมู่

บ้

านมี

ความเข้

มแข็

งพร้

อมที่

จะพั

ฒนาโดยศึ

กษา

จากองค์กรชาวบ้าน 9 กลุ่มคื

อ กลุ่มเซี

ยงน้อยเพื่

อการพั

ฒนา องค์กรชาวบ้านเพื่

การพั

ฒนาภาคอี

สาน กลุ่มอี

โต้น้อย กลุ่มเกษตรกรโนนทราย มูลนิ

ธิ

เกษตรกรไทย

สหกรณ์การเกษตรท่านางแมว สมัชชาเกษตรกรรายย่อยภาคอีสาน และงานของ

พระมหาอนั

นต์

ดอนนอก (2540) วิ

จั

ยเรื่

องบทบาทของพระสงฆ์

ในการพั

ฒนาชุ

มชน

ตามโครงการอบรมประชาชนประจ�

ำต�

ำบล (อ.ป.ต.) ในจั

งหวั

ดนครราชสี

มา พบว่า

ประชากรส่

วนใหญ่

มี

การศึ

กษาในระดั

บประถมศึ

กษาและมี

ประสบการณ์

ท�

ำงาน

พั

ฒนาชุ

มชน ซึ่

งเป็

นการพั

ฒนาชุ

มชนทั้

งด้

านวั

ตถุ

คื

อ การพั

ฒนาด้

านสาธารณูปโภค

พัฒนาด้านจิตใจมีการรณรงค์

ต่

อต้

านอบายมุขและเสริมสร้

างความสามัคคีให้

แก่

ประชาชน พระสงฆ์

เข้

ามามี

บทบาทในด้

านการเป็

นผู้

สนั

บสนุ

นให้

ค�

ำปรึ

กษาและ

ประสานงานกั

บหน่วยงานของราชการและองค์กรเอกชน เนื่

องจากพระสงฆ์ศึ

กษา

หลั

กพุ

ทธธรรมและคุ

นเคยกั

บประชาชนในชุ

มชน จากผลงานดั

งกล่

าวสรุ

ปได้

ว่

การสร้างชุมชนให้มีความเข้มแข็งนั้

น ผู้น�

ำชุมชนและกรรมการจะต้องมีการจัดท�

แผนแม่

บทเพื่

อก�

ำหนดทิ

ศทางในการพั

ฒนาชุ

มชนให้

เป็

นไปในเชิ

งรุ

กก่

อน เพราะ

กระบวนการจั

ดท�

ำแผนแม่

บทชุ

มชนนั้

นเป็

นเครื่

องมื

อในการค้

นหาความต้

องการของ

ชุ

มชนในการพั

ฒนาศั

กยภาพของตน โดยปั

จจั

ยที่

ส่

งเสริ

มความเข้

มแข็

งให้

แก่

ชุ

มชน

นั้

นพบว่ากลุ่มผู้น�

ำชุ

มชนเป็นผู้มีบทบาทส�

ำคั

ญที่

สุ