Previous Page  157 / 318 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 157 / 318 Next Page
Page Background

156

โสวัฒนธรรม

ชาวชนบทที่

ได้รั

บผลกระทบจากโครงการพั

ฒนาของรั

ฐ : กรณี

ศึ

กษาเขื่

อนปากมูล

มี

วั

ตถุ

ประสงค์

เพื่

ออธิ

บายกระบวนการปรั

บวั

ฒนธรรมในการด�ำเนิ

นชี

วิ

ตของชาว

ชุ

มชนลุ

มน�้

ำมูลที่

ได้

รั

บผลกระทบจากเขื่

อนปากมูล รวมทั้

งอธิ

บายความสั

มพั

นธ์

ระหว่างบริบทของครัวเรือน ชุมชนและวิธีการท�ำงานของรัฐที่ส่งผลต่อการปรับตัว

และการโต้กลับของผู้

ได้

รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น วิธีการศึกษา

คื

อ การวิ

จั

ยเชิ

งคุ

ณภาพ พื้

นที่

ศึ

กษาคื

อชุ

มชนลุ่

มน�้

ำมูล 3 หมู่

บ้

านที่

ได้

รั

บผลกระทบ

จากเขื่

อนปากมูล พบว่

า การสร้

างเขื่

อนปากมูลส่

งผลกระทบต่

อระบบนิ

เวศน์

ของลุ

มน�้

ซึ่

งการเปลี่

ยนแปลงที่

เกิ

ดขึ้

นท�

ำให้ชุ

มชนต้องปรั

บตัวในหลายด้าน คื

อ การโยกย้าย

ชุ

มชนและบ้

านเรื

อน การผลิ

ตของครั

วเรื

อน ทั้

งเพื่

อบริ

โภคและเพื่

อสร้

างรายได้

ความสั

มพั

นธ์

ทางสั

งคม และงานวิ

จั

ยของฤทธิ์

ชั

ย ภูตะวั

น, ทวี

หอมหวนและ

ปราณี

มั

คศนั

นท์ (2546) เรื่

อง ชะตากรรมชาวนาไทยในภาคอี

สาน พบว่า อาชี

เกษตรกรรมส่

วนใหญ่

เป็

นเกษตรกรรายย่

อย การท�

ำนาเป็

นอาชี

พหลั

ก เมื่

อการ

ท�

ำนาในปั

จจุ

บั

นมี

ลั

กษณะต้

องใช้

ต้

นทุ

นสูงต้

องพึ่

งพาธรรมชาติ

ผลผลิ

ตราคาที่

ขาย

ได้

ไม่

คุ้

มกั

บต้

นทุ

น ท�

ำให้

ชาวนาขาดทุ

น ชาวนาส่

วนใหญ่

คิ

ดว่

า คนจนคื

อคนไม่

มี

เงิ

มี

หนี้

สิ

น ไม่

พอกิ

น ไม่

พออยาก หาเช้

ากิ

นค�่

ำ อยู่

ไปลมๆ แล้

งๆ เมื่

อโครงการก่

อสร้

าง

ฝายราศี

ไศล การสูญเสี

ยที่

ท�

ำกิ

นทวี

ความรุ

นแรงขึ้

น เกิ

ดน�้

ำท่

วมนาทามที่

สาธารณะ

ส�

ำหรั

บท�

ำนาของชาวบ้

าน จึ

งไม่

สามารถท�

ำการผลิ

ตข้

าวได้

ท�

ำให้

เกิ

ดความทุ

กข์

ยาก

และบทความของรัตนา โตสกุ

ล (2541) เรื่

อง ความหมายของการพั

ฒนาในสายตา

ของชาวบ้

านภาคอี

สาน : มิ

ติ

ทางมานุ

ษยวิ

ทยา งานชิ้

นนี้

ศึ

กษาผลสรุ

ปการให้

ความหมายด้านการพั

ฒนาของชาวบ้านชาติ

พั

นธุ์ไท-ลาว 2 หมู่บ้านในภาคอี

สาน

หลั

งจากที่

เข้

ารับการพั

ฒนาของภาครัฐมาตั้

งแต่

ทศวรรษ 1960 พบว่

า ขณะที่

รั

ของไทยมี

บทบาทความรั

บผิ

ดชอบหลั

กในการเสนอแนวคิ

ด และนโยบายการพั

ฒนา

ประเทศชาติ

แต่

ชาวบ้

านไม่

ได้

สะท้

อนถึ

งการยอมรั

บ โดยปราศจากการตั้

งค�

ำถามต่

แนวคิ

ดและนโยบายการพั

ฒนา ดั

งนั้

นการพั

ฒนาจึ

งเป็

นพื้

นที่

หนึ่

งทางวั

ฒนธรรม

ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความหมายซึ่งประกอบด้วย ความร่วมมือ การโต้แย้งและ

การท้

าทายกั

บแนวคิ

ดการพั

ฒนาที่

เป็

นกระแสหลั

ก โดยส่

วนใหญ่

ชาวบ้

านสร้

าง