งานวิจัยวัฒนธรรมภาคอีสาน
155
องค์ความรู้ของชุมชนท้องถิ่
น
ส�
ำหรั
บเบญจวรรณ นาราสั
จจ์
(2541) ได้
ศึ
กษาการรั
บช่
วงการผลิ
ตกั
บ
ระบบความสั
มพั
นธ์
ทางสั
งคมในชุ
มชน ศึ
กษากรณี
กิ
จการแหอวนในหมู่
บ้
าน
จั
งหวั
ดขอนแก่
น เป็
นการศึ
กษาการรับช่
วงการผลิ
ตจากโรงงานเข้
าสู่
หมู่
บ้
านด้
วย
ระบบตั
วแทนหรื
อคนกลาง เพื่
อท�
ำความเข้
าใจลั
กษณะความสั
มพั
นธ์
ที่
เกิ
ดขึ้
นใน
เครื
อข่
ายรั
บช่
วงการผลิ
ต การเปลี่
ยนแปลงความสั
มพั
นธ์
ทางสั
งคมที่
เกิ
ดขึ้
นใน
หมู่
บ้
าน พบว่
า การรั
บช่
วงการผลิ
ตอวนในฐานะกิ
จกรรมทางเศรษฐกิ
จ ไม่
เอื้
ออ�
ำนวย
ให้เกิดกลุ่มความสัมพันธ์ทางสังคมแบบใหม่ และเงื่อนไขในการท�ำงานเปิดโอกาส
ให้ผู้ปะอวนร่วมกิจกรรมทางสังคม เพื่อรักษาความสัมพันธ์ต่อคนรอบข้างไว้ การ
รับช่วงการผลิตอวนช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ทางสังคมภายในหมู่บ้านให้เข้มแข็ง
ขึ้
น มี
รายได้
เป็
นเงิ
นสดอย่
างสม�่
ำเสมอ มี
ความเป็
นอยู่
ที่
ดี
มี
เครื่
องอ�
ำนวยความ
สะดวกต่
างๆ ส่
งเสริ
มการศึ
กษาแก่
ลูกหลาน ร่
วมท�
ำบุ
ญช่
วยเหลื
อ บริ
จาคแก่
กิ
จกรรมส่
วนรวมของหมู่
บ้
าน ก่
อให้
เกิ
ดแนวโน้
มการเปลี่
ยนแปลงความสั
มพั
นธ์
ภายในครัวเรือนและชุมชน คือผู้หญิงเป็นผู้ปะอวนมีความส�
ำคัญขึ้น และธวัชชัย
เพ็
งพิ
นิจ (2544) ได้
ศึ
กษาวิ
ถี
ชี
วิ
ตของเกษตรกรชานเมื
องภายหลั
งการขายที่
ดิ
น
ท�
ำกิ
น : กรณี
ศึ
กษาบ้านโนนม่วง หมู่ที่
3 ต�
ำบลศิ
ลา อ�
ำเภอเมื
อง จั
งหวั
ดขอนแก่น
พบว่
า บ้
านโนนม่
วงเกิ
ดจากการอพยพย้
ายถิ่
นเพื่
อแสวงหาที่
อยู่
อาศั
ยและที่
ดิ
นท�
ำกิ
น
ชาวบ้
านมี
อาชี
พเดิ
มคื
อ การท�
ำนาในที่
ดิ
นท�
ำกิ
นของตนเอง หลั
งจากขายที่
ดิ
นท�
ำกิ
น
ชาวบ้านอพยพเข้าไปท�ำงานรับจ้างในภาคอุตสาหกรรมและบริการในตัวเมืองและ
อี
กส่วนก็
ประกอบอาชี
พอื่
นๆ ในหมู่บ้าน ปัจจั
ยที่
มี
ผลต่อการขายที่
ดิ
นได้แก่ ภาระ
หนี้
สิ
น ค่านิ
ยม การขยายตั
วของเมื
อง และภาวะความแปรปรวนของธรรมชาติ
ซึ่
ง
เกิ
ดผลกระทบและการเปลี่
ยนแปลงขึ้
นในโครงสร้
างทุ
กส่
วนในหมู่
บ้
าน ไม่
ว่
าจะเป็
น
ด้
านสั
งคม วั
ฒนธรรม พฤติ
กรรมของคนในหมู่
บ้
าน ท�
ำให้
รากฐานทางความคิ
ดและ
ค่านิ
ยมเปลี่
ยนแปลงไป
งานวิ
จั
ยของพั
ชริ
นทร์
ลาภานั
นท์
(2546) เรื่
อง การปรั
บตั
วทางวั
ฒนธรรมของ