150
โสวัฒนธรรม
หลากชนิ
ด และเดิ
มเศรษฐกิ
จเป็นแบบยั
งชี
พและต่อมามี
การค้าแบบทุ
นนิ
ยมท�
ำให้
เศรษฐกิจของหมู่บ้านเปลี่ยนไป มีการตัดไม้เผาถ่านเพื่อการค้า รวมทั้งโครงสร้าง
ปั
จจั
ยพื้นฐานมี
มากขึ้
นโดยเฉพาะถนน นอกจากนี้
สมดั
งจิ
ต กี
รติ
พลพงษ์
(2543)
ได้
ศึ
กษาปั
จจั
ยที่
ท�
ำให้
เกิ
ดการเปลี่
ยนแปลงอาชี
พทอผ้
าไหมมั
ดหมี่
ของชาวบ้
าน
โคกกุ
ง ต�
ำบลดอนกอก อ�
ำเภอนาโพธิ์
จั
งหวั
ดบุรี
รั
มย์ พบว่า เดิ
มชาวบ้านมี
ความ
ช�
ำนาญในการทอผ้าไหมมั
ดหมี่
มาแต่บรรพบุ
รุ
ษ ซึ่
งเป็นการทอเพื่
อยั
งชี
พ และเริ่
ม
มาจ�
ำหน่
ายในปี
พ.ศ.2524 และภายหลั
งการท�
ำนาเริ่
มประสบปั
ญหา ชาวบ้
านจึ
งท�
ำ
อาชี
พทอผ้
าไหมมั
ดหมี่
ควบคู่
กั
นไป ส่
วนปั
จจั
ยที่
ท�
ำให้
เกิ
ดการเปลี่
ยนแปลงอาชี
พนั้
น
พบว่า มาจากเรื่
องรายได้ และการประกวดผ้าไหมมั
ดหมี่
งานวิ
จั
ยของบั
วพั
นธ์
พรหมพั
กพิ
ง (2545) เรื่
อง เศรษฐกิ
จชุ
มชนหมู่
บ้
าน
อี
สานห้
าทศวรรษหลั
งสงครามโลกครั้
งที่
2 กรณี
ศึ
กษาบ้
านท่
า เป็
นงานที่
ศึ
กษา
การเปลี่
ยนแปลงทางเศรษฐกิ
จและสั
งคมของหมู่
บ้
าน และศึ
กษาพลั
งหรื
อปั
จจั
ย
ที่
สามารถท�
ำให้
ชุ
มชนด�
ำรงอยู่
ได้
และพั
ฒนาต่
อไปอย่
างมี
ศั
กดิ์
ศรี
โดยใช้
วิ
ธี
การ
วิ
จั
ยเชิ
งคุ
ณภาพ พบว่า บ้านท่าก่อตั้
งมาตั้
งแต่ปี 2465 เศรษฐกิ
จบ้านท่าในยุ
คแรก
มี
การท�
ำมาหากิ
นแบบยั
งชี
พควบคู่
กั
บการผลิ
ตและค้
าเกลื
อ ในช่
วงทศวรรษที่
2500 ชาวบ้านเริ่
มปลูกพื
ชเศรษฐกิ
จ คื
อ ปอ ในปัจจุ
บั
นครั
วเรื
อนบ้านท่า มี
รูปแบบ
การยั
งชี
พที่
ส�
ำคั
ญ 2 รูปแบบคื
อ 1) อาศั
ยที่
ดิ
นหรื
อท�
ำการเกษตรเป็
นหลั
ก
2) เป็
นการยั
งชี
พโดยการหาอยู่
หากิ
น อาศั
ยทั
กษะและประสบการณ์
แบบดั้
งเดิ
ม
บวกกั
บทรั
พยากรธรรมชาติ
และงานวิ
จั
ยของจุ
รี
รั
ตน์
ผลดี
(2544) เรื่
อง การเปลี่
ยนแปลง
วั
ฒนธรรมการหาปลาของชุ
มชนลุ
่
มน�้
ำมูลตอนปลายภายหลั
งการสร้
างเขื่
อนปากมูล
การศึ
กษาการเปลี่
ยนแปลงภายหลั
งการสร้
างเขื่
อนปากมูล วิ
ถี
ชี
วิ
ตของชุ
มชน
ลุ่มน�้
ำมูลตอนปลายพึ่
งพิ
งทรั
พยากรปลาจากแม่น�้ำมูลในการด�
ำรงชี
วิ
ต วั
ฒนธรรม
การหาปลาของชาวประมง เริ่
มจากการสั
งเกตปรากฏการณ์
ทางธรรมชาติ
ใน
แต่
ละฤดูกาลและศึ
กษาลั
กษณะนิ
สั
ยของปลา จนน�
ำไปสู่
การคิ
ดค้
นเครื่
องมื
อจั
บ
ปลารูปแบบต่
างๆ เครื่
องมื
อจั
บปลาที่
ถูกคิ
ดค้
นขึ้
นเพื่
อให้
จั
บปลาที่
ตนต้
องการ ต้
อง
สอดคล้
องกั
บลั
กษณะทางธรรมชาติ
และรั
กษาความอุ
ดมสมบูรณ์
ไว้
ให้
ลูกหลาน