Previous Page  133 / 318 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 133 / 318 Next Page
Page Background

132

โสวัฒนธรรม

ตึ

งเครี

ยดได้ สรุ

ปแล้ว การออกก�

ำลั

งกายโดยวิ

ธี

การใช้ท่าร�

ำประกอบเพลงพื้

นเมื

อง

อี

สานประยุ

กต์นี้

มี

ผลต่อการเพิ่

มอั

ตราการใช้ออกซิ

เจนสูง

ส่

วนบทความของจารุ

วรรณ ธรรมวั

ตร (2540) เรื่

อง การเฝ้

าไข้

อี

สาน อี

กรูปแบบ

ของวั

ฒนธรรมที่

โรงพยาบาลควรเอาใจใส่

กล่

าวว่

า การเฝ้

าไข้

ของคนอี

สาน

สั

งคมไทยโดยเฉพาะอย่

างยิ่

งชุ

มชนอี

สานให้

ความส�

ำคั

ญกั

บการนั

บถื

อเครื

อญาติ

มาก โดยเฉพาะในภาวะเจ็

บป่วย ครอบครั

วเครื

อญาติ

จะต้องช่วยเหลื

อกั

นและกั

ญาติ

พี่

น้

องจะต้

องช่

วยกั

นดูแลทุ

กข์

สุ

ขไม่

ปล่

อยให้

อยู่

โดดเดี่

ยว หากไม่

ไปดูแล

ถื

อว่

าบกพร่

อง เป็

นการพิ

สูจน์

น�้

ำใจและความจริ

งใจ เมื่

อพิ

จารณาคติ

ความเชื่

อชาว

อี

สานยั

งมี

ความเชื่

อถื

อเรื่

องผี

บรรพบุ

รุ

ษ การผิ

ดผี

ท�

ำให้

เกิ

ดความเจ็

บป่

วยต้

องรั

กษา

โดยการล�ำส่อง ล�

ำทรงหรือการเหยา และบทความของอุดม บัวศรี (2541) เรื่อง

ไม้

ข่

มเหง ได้

ศึ

กษาเกี่

ยวกั

บไม้

ข่

มเหง พบว่

า เมื่

อมี

คนตายชาวบ้

านจะไปตั

ดไม้

ที่

สวน

หรื

อตามป่

าเขาหรื

อป่

าช้

าเพื่

อมาท�ำไม้

ข่

มเหง ตั

ดมาแล้

วก่

อนเผาใช้

ไม้

นี้

พาดโลงศพ

ข้างละท่อนจึ

งเผาโดยถื

อคติ

เป็น 2 ประการ 1) เป็นการเตื

อนชี

วิ

ตต้องทนกั

บความ

เจ็

บป่วย การทนทุ

กข์ทรมานกั

บความเจ็

บป่วยโรคร้าย เสมื

อนหนึ่

งว่าไร้อิ

สรภาพ มี

แต่

คนข่

มเหง แม้

ตายก็

ยั

งมี

ไม้

ข่

มเหงไม่

มี

ที่

สิ้

นสุ

ดจึ

งถื

อว่

าเป็

นเรื่

องธรรมดา 2) เป็

นการ

แสดงภูมิปัญญาของคนอีสาน ที่รับเผาศพภายใน 3 วัน ศพที่ยังดีๆ อยู่ในช่วงนี้

เมื่

อถูกเผาจะเกร็

งตั

วขึ้

นทะลุ

โลงน่าเกลี

ยดจึ

งมี

ไม้ข่มเหงเพื่

อกั

นไม่ให้ศพกระเด้งขึ้

นอกจากนี้

บทความของบ�

ำเพ็

ญ ไชยรั

กษ์

(2542) เกี่

ยวกั

บการถ่

ายโยง

ภูมิ

ปัญญาของชาวนาสะไมย์ ต�

ำบลนาสะไมย์ อ�

ำเภอเมื

อง จั

งหวั

ดยโสธร ซึ่

งเป็น

ชุมชนที่มีอายุกว่าศตวรรษ และเป็นชุมชนที่มีอ�

ำนาจในการจัดการทรัพยากร ทุน

แรงงาน ในชุ

มชนของตนอย่

างมี

ประสิ

ทธิ

ภาพ ตั้

งแต่

อดี

ตจนถึ

งปั

จจุ

บั

นบรรพชนมี

วิ

ธี

การถ่

ายโยงประสบการณ์

แก่

สมาชิ

กรุ่

นใหม่

ของชุ

มชนอย่

างต่

อเนื่

อง โดยเปิ

ดโอกาส

ให้เข้าร่วมท�

ำงานแล้วเกิ

ดกระบวนการเรี

ยนรู้ และมอบหมายความรั

บผิ

ดชอบตาม

ก�

ำลั

งความสามารถเพื่

อให้เกิ

ดศั

กยภาพ ทั้

งยั

งเกิ

ดปฏิ

สั

มพั

นธ์อั

นดี

ระหว่างสมาชิ

และยั

งมี

บทความของลั

กขณา จิ

นดาวงษ์

(2545) เรื่

อง หมอน�้

ำมั

น ภูมิ

ปั

ญญา

โบราณในการรั

กษาโรคของชาวร้

อยเอ็

ด ศึ

กษาเกี่

ยวกั

บภูมิ

ปั

ญญาของชาวร้

อยเอ็