งานวิจัยวัฒนธรรมภาคอีสาน
113
ได้
รั
บการน�
ำเสนอโดยชนชั้
นผู้
น�
ำ กษั
ตริ
ย์
ขุ
นนางและปั
ญญาชนมาตลอด
ระยะเวลาของประวัติศาสตร์ไทยสมัยใหม่เพื่อสร้างชาติ พัฒนาประเทศ พิธีกรรม
ข่วงผีฟ้อนของชาวบ้านเรียกตัวเองว่า “ลาวข้าวเจ้า” สะท้อนให้เห็น “วิธีคิดแบบ
พึ่
งพา” อ�
ำนาจภายนอกทั้
งที่
เป็นอ�
ำนาจผี
และอ�
ำนาจของข้าราชการ นั
กการเมื
อง
และนายทุ
น แสดงให้
เห็
น “วิ
ธี
คิ
ด” บทความของสุ
ริ
ยา สมุ
ทคุ
ปติ์
และพั
ฒนา
กิตติอาษา (2546)
เรื่อง คนอีสานในอดีตใช้ผ้าซิ่นห่อคัมภีร์ใบลาน ได้กล่าวไว้ว่า
ในอดี
ตชาวอี
สานได้ใช้ผ้าซิ่
น ซึ่
งเป็นเครื่
องนุ่งห่มร่างกายท่อนล่างของผู้หญิ
งมาห่อ
คั
มภี
ร์
ใบลานซึ่
งเป็
นของสูงและศั
กดิ์
สิ
ทธิ์
ได้
รั
บการรั
กษาในมณฑลทางศาสนาและ
อ�
ำนาจของผู้
ชายมาโดยตลอด นั่
นแสดงว่
าคนอี
สานคิ
ดและท�
ำในสิ่
งที่
แย้
งกั
บ
ความเชื่
อและโลกทั
ศน์ในวั
ฒนธรรมของตนเองมาตั้
งแต่ครั้
งอดี
ต
บทความของชอบ ดี
สวนโคก (2544) เรื่
อง "แม่
ญิ
ง" หมอล�
ำทรง/หมอล�
ำ
ผี
ฟ้า:มิ
ติ
การรั
กษาพยาบาล กล่าวว่า ชาวอี
สานมี
ความเชื่
อผูกพั
นอยู่กั
บวิ
ญญาณ
ที่มีอ�ำนาจลึกลับที่เรียกว่
าผีมาช้
านาน วิถีชีวิตเข้
าไปโยงใยอยู่
กับเรื่องนี้
ตั้งแต่
เกิด
จนตาย จนท�
ำให้ก�
ำหนดได้ว่า ผี
มี
ถิ่
นที่
อยู่มี
ภาระหน้าที่
มี
บุ
คลิ
กต่างกั
นออกไป คื
อ
1) ผี
ฟ้
า หมายถึ
ง ผี
ไท้
ผี
แถน มี
หน้
าที่
ปั
้
นหล่
อ คุ
้
มครองปกปั
กรั
กษามนุ
ษย์
ผี
เชื้
อหรื
อ
ผี
บรรพบุ
รุ
ษ มี
หน้
าที่
คุ้
มครองปกปั
กรั
กษาลูกหลาน เมื่
อท�
ำผิ
ดก็
ลงโทษ เป็
นผี
ชั้
นสูง
2) ผี
บ้าน หมายถึ
ง ผี
ปู่ตา ท�ำหน้าที่
คุ้มครองหมู่บ้านไม่ให้ผี
ภายนอกเข้าไปภายใน
3) ผี
เจ้
าที่
หมายถึ
ง ผี
น�้
ำ ผี
ภู ผี
ไร่
ผี
นา ผี
ป่
า ผี
ดง เป็
นผี
ที่
มี
หน้
าที่
รั
กษาภูมิ
ฐาน เป็
นผี
ชั้
นกลาง 4) ผี
พเนจร หมายถึ
ง ผี
เผด (เปรต) ผี
หลอกไม่
มี
ที่
อยู่
ที่
แน่
นอน เป็
นผี
ชั้
นเลว
5) ผี
บ้
า หมายถึ
ง คนที่
มี
อาการขาดสติ
สั
มปั
ชชั
ญญะเป็
นพวกคนผี
บ้
า ผู้
ป่
วยเป็
นโรค
ผี
แปงประเภทที่
1 ถึ
งที่
3 เป็
นหน้
าที่
ของหมอล�
ำทรงหรื
อหมอล�
ำผี
ฟ้
าหรื
อหมอล�
ำคุ
ณ
จะได้
ผลดี
ที่
สุ
ด ส่
วนบทความของวิ
เชี
ยร มี
บุ
ญ (2541) เรื่
อง พิ
ธี
กรรมการจั
บปลาบึ
ก
ในแม่น�้
ำโขง กล่าวว่า ในอดี
ตชาวลาวและชาวอี
สานเชื่
อกั
นว่าปลาบึ
กเป็นปลาเจ้า
ล่
าไม่
ได้
ต้
องขออย่
างเดี
ยว วั
ฒนธรรมการบริ
โภคปลาบึ
กของชาวลาวและชาวอี
สาน
ในอดี
ตต้
องการบริ
โภคแต่
พอเป็
นบุ
ญเท่
านั้
น แต่
ในปั
จจุ
บั
นแต่
ละปี
ที่
ผ่
านมาได้
มี
การ
จั
บปลาบึ
กปีละ 1 ครั้
งโดยมี
พิ
ธี
กรรมที่
ยิ่
งใหญ่ สร้างศาลเพี
ยงตาในบริ
เวณหาดที่