งานวิจัยวัฒนธรรมภาคกลาง
219
ถูกก�
ำหนดกรอบมาจากตั
วปั
จจั
ยภายนอก เช่
น รั
ฐบาลหรื
อองค์
กรปกครอง
ส่
วนท้
องถิ่
น ซึ่
งบ่
อยครั้
งนโยบายหรื
อแนวทางปฏิ
บั
ติ
เหล่
านี้
อาจมุ่
งเน้
นไปที่
การสร้
าง
รายได้
และผลประโยชน์
มากกว่
าที่
จะมองผลกระทบที่
เกิ
ดขึ้
นกั
บสภาพแวดล้
อม
และประชากรของชุมชนเจ้าบ้าน ด้วยเหตุนี้ รัฐจึงควรให้ความส�
ำคัญกับวิธีการที่
จะช่วยให้การท่องเที่ยวสามารถบรรลุวัตถุประสงค์และความต้องการของทั้งระดับ
ประเทศและระดั
บท้
องถิ่
น ทั้
งนี้
สิ่
งที่
จ�
ำเป็
นส�
ำหรั
บภาครั
ฐก็
คื
อ การบูรณาการ
การท่
องเที่
ยวให้
เข้
าไปมี
ส่
วนส�
ำคั
ญในกิ
จกรรมเกี่
ยวเนื่
องกั
บการพั
ฒนาอื่
นๆ
ที่ส�ำคัญต่อชุมชนท้องถิ่น เช่น การส่งเสริมอุตสาหกรรมในครัวเรือน การอนุรักษ์
สภาพแวดล้อม กระจายอ�ำนาจทางการเมืองให้กับชุมชน รวมถึงการสร้างโอกาส
ในงานและอาชีพให้กับบุคคลท้องถิ่น เพื่อสนับสนุ
นให้เกิดวงจรความต่อเนื่องของ
การท่องเที่
ยวภายในประเทศอย่างแท้จริ
ง
ข.ให้การสนับสนุนต่อการพัฒนาการท่องเที่ยวทั้งในรูปแบบปกติ
และการท่องเที่ยวแบบทางเลือก
ในความเป็
นจริ
งอาจเป็
นการไม่
ถูกต้
องนั
กในการวางกรอบแนวคิ
ดจั
ดให้
การ
ท่
องเที่
ยวรูปแบบปกติ
หรื
อ Mass Tourism กั
บ การท่
องเที่
ยวแบบทางเลื
อกหรื
อ
Alternative Tourism เป็
นสิ่งที่มี
ความแตกต่
างกั
นอย่
างสุ
ดขั้
ว ทั้งที่
ทั้
ง 2 รูปแบบ
ต่
างก็
มี
ศั
กยภาพที่
จะก่
อให้
เกิ
ดการพั
ฒนา รวมทั้
งก่
อให้
เกิ
ดผลกระทบทั้
งในด้
าน
สั
งคม เศรษฐกิ
จและสิ่
งแวดล้อมได้เช่นกั
น ทั้
งนี้
การท่องเที่
ยวแบบ Mass Tourism
ยั
งเป็
นรูปแบบหลั
กของการท่
องเที่
ยวที่
สามารถน�
ำรายได้
จ�
ำนวนมากเข้
ามาสู่
ภาครั
ฐและชุ
มชน นอกจากนั้
น ความพยายามในการรั
กษาฐานของรูปแบบการ
ท่
องเที่
ยวในลั
กษณะนี้
ไว้
ยั
งเป็
นสิ่
งจ�
ำเป็
น โดยเฉพาะกั
บประเทศก�
ำลั
งพั
ฒนา
จ�
ำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ถ้าได้รั
บการออกแบบและบริ
หารจั
ดการที่
ดี
แล้ว Mass
Tourism จะสามารถเป็
นประโยชน์
ได้
อย่
างมากในการรองรั
บความต้
องการของ
นั
กท่
องเที่
ยวที่
มี
จ�
ำนวนมาก และขณะเดี
ยวกั
นยั
งสามารถก่
อให้
เกิ
ดรายได้
สูงสุ
ด
และลดผลกระทบต่างๆ ที่
จะเกิ
ดขึ้
นให้อยู่ในระดั
บต�่
ำที่
สุ
ดกั
บชุ
มชนท้องถิ่
นได้ด้วย