งานวิจัยวัฒนธรรมภาคกลาง
221
อย่างไรก็
ตาม รูปแบบการจั
ดการท่องเที่
ยวในกรอบขนาดย่อยที่
ด�
ำเนิ
นการ
โดยชุ
มชนเองตามที่
กล่
าวไว้
ข้
างต้
นก็
อาจไม่
ช่
วยให้
ชุ
มชนได้
บรรลุ
เป้
าหมายของ
ยุ
ทธศาสตร์
การพั
ฒนาเสมอไป โดยเฉพาะเมื่
อมองในประเด็
นที่
ว่
า รูปแบบดั
งกล่
าว
มั
กมี
ข้
อจ�
ำกั
ดในการก่
อให้
เกิ
ดรายได้
เข้
าสู่
ชุ
มชนภายในระยะเวลาอั
นสั้
น นอกจากนั้
น
ความรู้
ในระดั
บกว้
างและทั
กษะในทางธุ
รกิ
จเกี่
ยวกั
บการบริ
หารจั
ดการและ
การตลาดของชาวชุมชนท้องถิ่
นก็
เป็นสิ่
งจ�
ำเป็นเพื่
อจั
ดการกิ
จกรรมประจ�
ำวั
นต่างๆ
ให้
สามารถลุ
ล่
วงไปได้
ด้
วยดี
ดั
งนั้
น จึ
งไม่
น่
าแปลกใจนั
กที่
จะพบว่
าการจั
ด
การท่
องเที่
ยวในรูปแบบของชุ
มชนอาจไม่
ได้
น�
ำไปสู่
ความยั่
งยื
นทางเศรษฐกิ
จของ
ชุ
มชนในระยะยาว หากจะให้
ชุ
มชนสามารถหาวิ
ธี
การเหมาะสมในการจั
ดการ
ทรั
พยากรการท่
องเที่
ยวของชุ
มชนอย่
างยั่
งยื
นโดยควบคู่
ไปกั
บฐานทรั
พยากรและ
ศั
กยภาพที่
มี
อยู่
อย่
างจ�
ำกั
ด การเปิ
ดรั
บกลยุ
ทธ์
ที่
หลากหลายเพื่
อการพั
ฒนาจึ
งเป็
นสิ่
ง
จ�
ำเป็นอย่างยิ่
ง ซึ่
งอาจรวมไปถึ
งการผสมผสานรูปแบบของการท่องเที่
ยวแบบปกติ
และแบบทางเลื
อกเข้
าด้
วยกั
น ทั้
งนี้
ควรค�ำนึ
งถึ
งหลั
กที่
อยู่
บนพื้
นฐานความจริ
งว่
า
ไม่
ว่
าการท่
องเที่
ยวรูปแบบใดจะถูกน�
ำมาใช้
กั
บชุ
มชนก็
ตาม ต่
างต้
องเผชิ
ญกั
บ
ผลกระทบที่ย่อมเกิดขึ้นตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ทั้งสิ้น แต่ในความพยายามที่
จะให้ชุมชนได้เข้ามามีส่วนร่วมจัดการท่องเที่ยวย่อมส่งผลดีในแง่ของการกระจาย
รายได้ไปยังสมาชิกต่างๆ การลดความไม่เท่าเทียมกัน การปรับปรุงคุณภาพชีวิต
ของชาวชุ
มชนท้
องถิ่
น ช่
วยเสริ
มสร้
างพั
ฒนาทั
กษะทางธุ
รกิ
จที่
จ�
ำเป็
น และลดอั
ตรา
การอพยพย้ายถิ่
นเข้าสู่เมื
องใหญ่ได้
ค. การให้ชุมชนเป็นผู้มีบทบาทในการพัฒนารูปแบบและ
การจัดการท่องเที่ยว
นอกจากความพยายามในการแสดงบทบาทต่
อพั
ฒนาการด้
านการท่
องเที่
ยว
ชาวชุ
มชนยั
งสามารถแสดงออกเพื่
อโต้
ตอบรูปแบบการจั
ดการที่
ไม่
เหมาะสม
บางประการในอาณาเขตพื้
นที่
ของชุ
มชนได้เช่นกั
น ซึ่
งระดั
บของการแสดงออกอาจ
มี
ความแตกต่
างกั
นออกไป โดยที่
บางชุ
มชนอาจเลื
อกใช้
วิ
ธี
การคั
ดค้
านอย่
างเปิ
ดเผย