งานวิจัยวัฒนธรรมภาคใต้
233
ก็มีชาวไทยพุทธบางส่วนอยู่รวมกันเสมือนญาติสนิ
ทต่างให้ความช่วยเหลือกันเป็น
อย่างดี
โดยไม่แบ่งแยก ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชี
พประมงพื้
นบ้าน หลั
งจาก
พ.ศ.2500 มี
นายทุ
นเข้
ามาหาผลประโยชน์
จากชุ
มชน ชาวบ้
านได้
ร่
วมมื
อกั
นต่
อต้
าน
และให้
ความสนใจปลูกฝั
งเรื่
องการอนุ
รั
กษ์
ทรั
พยากรชายฝั
่
งป่
าชายเลนและหญ้
า
ทะเล ท�
ำให้ความขั
ดแย้งในชุ
มชนเริ่
มคลี่
คลายลง และอยู่ร่วมกั
นอย่างสงบสุ
ข
บท
เรี
ยนการท�
ำงานองค์
กรการพั
ฒนาเอกชนเครื
อข่
ายประมงและการจั
ดการทรั
พยากร
ชายฝั
่
งภาคใต้
(อั
มพร แก้
วหนู, 2541) บทความนี้
ผู้
ศึ
กษาได้
รวบรวมรายผลการ
ศึกษาทางเลือกเพื่อความอยู่รอดในการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งชุมชนชาวประมงใน
ภาคใต้ พบว่า การท�
ำการประมงต้องใช้เครื่
องมื
อที่
เกื้
อกูลกั
บระบบ มี
การก�
ำหนด
เขตรั
กษาพั
นธ์
สั
ตว์
น�้
ำ สร้
างปะการั
งเที
ยม จั
ดตั้
งกองทุ
นหมุ
นเวี
ยนเพื่
อให้
ความช่
วย
เหลือชาวประมง รักษาป่
าชายเลนให้
คงอยู่
การแปรรูปสั
ตว์
น�้
ำ การตั้
งกลุ่
มออม
ทรั
พย์ และการส่งเสริ
มกิ
จกรรมต่างๆ แก่เยาวชนและสตรี
ส�
ำหรั
บงานวิ
จั
ยจ�
ำนวน 11 เรื่
อง ใช้
วิ
ธี
วิ
ทยาวิ
จั
ยเชิ
งประยุ
กต์
1 เรื่
อง วิ
จั
ยเชิ
ง
ปริ
มาณ 2 เรื่
อง วิ
จั
ยเชิ
งคุ
ณภาพ 4 เรื่
อง และวิ
ธี
วิ
จั
ยเชิ
งปฏิ
บั
ติ
การแบบมี
ส่วนร่วม
(Participatory Action Research) 4 เรื่
อง งานวิ
จั
ยเชิ
งประยุ
กต์
คื
อ
การศึ
กษาการมี
ส่
วน
ร่
วมในการอนุ
รั
กษ์
ศิ
ลปวั
ฒนธรรมท้
องถิ่
นของสมาชิ
กองค์
การบริ
หารส่
วนต�
ำบลและ
ประชาชนในจั
งหวั
ดสุ
ราษฎร์
ธานี
(พิ
ชั
ย สุ
ขวุ
่
น, 2546) งานชิ้
นนี้
ใช้
กลุ
่
มตั
วอย่
าง 1,043 คน
ใช้
วิ
ธี
วิ
ทยาแบบประยุ
กต์
มี
ทั้
งการวิ
จั
ยเชิ
งปริ
มาณ วิ
จั
ยเชิ
งคุ
ณภาพ และการปฏิ
บั
ติ
การแบบมี
ส่
วนร่
วม ผลการศึ
กษาพบว่
า สมาชิ
กองค์
การบริ
หารส่
วนต�
ำบลและ
ประชาชนมี
ส่
วนร่
วมในการอนุ
รั
กษ์
ศิ
ลปวั
ฒนธรรมท้
องถิ่
นในระดั
บต�่
ำ ปั
จจั
ยที่
ท�
ำให้
ประชาชนมี
ส่
วนร่
วมแตกต่
างกั
น สาเหตุ
มาจากการเปลี่
ยนแปลงทางสั
งคมจากสั
งคม
เกษตรสู่สั
งคมทุ
นนิ
ยม เกิ
ดปัญหาความยากจน ปั
ญหาทรั
พยากร ท�
ำให้คนในภาค
ชนบทละทิ้
งวิ
ถี
ชี
วิ
ตแบบเดิ
ม ในขณะเดี
ยวกั
นก็
ละทิ้
งศิ
ลปวั
ฒนธรรมท้องถิ่
นไปด้วย
แนวทางแก้
ไข รั
ฐควรร่
วมมื
อกั
บประชาชนในการส่
งเสริ
มให้
เกิ
ดการเรี
ยนรู้
ด้
านศิ
ลป
วั
ฒนธรรมท้
องถิ่
นในเชิ
งของคุ
ณค่
าทางวั
ฒนธรรม เพื่
อเป็
นเครื่
องมื
อในการสร้
าง
ความสมดุลของชุมชน นอกจากนั้
นรัฐควรจัดงบประมาณในการท�
ำงานด้านศิลป