งานวิจัยวัฒนธรรมภาคเหนือ
71
ความที่
เติบโตมาจาก “พื้
นบ้
าน” ท�ำให้
เขาเลื
อกช้
างเป็
นงานที่ถ่
ายทอดความคิ
ด
และอารมณ์
ความรู้
สึ
ก แต่
ก็
มี
การประยุ
กต์
ความรู้
ด้
านการออกแบบ เขี
ยนแบบ รวม
ทั้
งการตี
ความเชิ
งนามธรรมมาผสานกั
บการแกะช้
างของเขา งานจึ
งพั
ฒนาจากเดิ
ม
ที่
เคยเน้
นรายละเอี
ยด ขั
ดงานด้
วยกระดาษทรายไม่
ให้
เห็
นรอยสิ่
ว ก็
กลายมาเป็
นทิ้
ง
ให้
เห็
นรอยสิ่
วของช่
าง และหั
นมาเน้
นความเรี
ยบง่
ายมากขึ้
น จุ
ดเด่
นของงานวิ
จั
ยทั้
ง
สองชิ้
นนี้
ก็
คื
อ การไม่
เน้
นเฉพาะตั
วศิ
ลปิ
นโดดๆ แต่
มองปั
จเจกบุ
คคลเป็
นจุ
ดเชื่
อมต่
อ
ของทั้
งพลั
งทางสั
งคม ความงาม สุนทรี
ยะ และพลั
งสร้างสรรค์เฉพาะตั
ว
นอกจากนี้
ยั
งมี
งานวิ
จั
ยอี
กกลุ
่
มหนึ่
ง เน้
นศึ
กษาที่
กระบวนการทางสั
งคม
ในการประกอบสร้างศิ
ลปวั
ฒนธรรม ประเด็
นที่
แตกต่างออกมาจากกลุ่มแรก ก็
คื
อ
มิ
ได้
เห็
นว่
าวั
ฒนธรรมเป็
นสิ่
งที่
ถูกก�
ำหนดมาก่
อนหรื
อมี
มาอยู่
ก่
อนแล้
วโดยปริ
ยาย
งานวิ
จั
ยกลุ
่
มหลั
งนี้
จึ
งนิ
ยามวั
ฒนธรรมว่
าเป็
นเรื่
องของการจั
ดการความสั
มพั
นธ์
ทางสังคม และมีจุดร่
วมเหมือนกันตรงที่เห็นว่
า ความคิด ค่
านิยม และโลกทัศน์
ต่
างๆ มิ
อาจด�ำรงอยู่
ได้
ด้
วยตั
วของมั
นเอง แต่
เกิ
ดและทรงพลั
งอยู่
ได้
ก็
ด้
วยอาศั
ย
รูปแบบความสั
มพั
นธ์
ทางสั
งคมแบบต่
างๆ ระหว่
างคนหลากหลายกลุ
่
ม ความ
สั
มพั
นธ์
ทางสั
งคมแบบหนึ่
งๆ ก็
มั
กท�ำให้
เกิ
ดวิ
ธี
คิ
ดหรื
ออุ
ดมการณ์
ทางสั
งคมแบบ
หนึ่
งๆ ด้
วย ศิ
ลปะก็
เช่
นกั
น มิ
ได้
มี
แต่
เพี
ยงมิ
ติ
ด้
านความงาม แต่
ยั
งสั
มพั
นธ์
แนบแน่
น
กั
บพลั
งหรื
อบทบาททางสั
งคมบางอย่างเสมอ
ในกลุ
่
มหลั
งนี้
มี
วิ
ธี
การศึ
กษาศิ
ลปะกั
บความสั
มพั
นธ์
ทางสั
งคมหลายลั
กษณะ
อย่างแรกคือเน้นศึกษาการจัดความสัมพันธ์ทางสังคมที่เกี่ยวข้
องกับการผลิตงาน
ศิ
ลปะแขนงนั้
นๆ งานศึ
กษาจิ
ตรกรรมฝาผนั
งยุ
ครั
ตนโกสิ
นทร์
ตอนต้
นของปริ
ตตา
(2536) แม้
จะศึ
กษาพื้
นฐานและโครงสร้
างขององค์
ประกอบทางศิ
ลปะ เช่
น ลายกนก
เส้นโค้ง การจัดพื้
นที่
ในภาพวาด การใช้สี
รูปลั
กษณะทางกายภาพของตั
วละครที่
ถูกวาด ซึ่
งอาจจั
ดได้
ว่
าได้
อิ
ทธิ
พลทฤษฎี
แนวโครงสร้
างนิ
ยม และมี
ลั
กษณะการ
วิ
เคราะห์
ในเชิ
งสถิ
ตย์
แต่
ในช่
วงต่
อมาของงานวิ
จั
ย ผู้
วิ
จั
ยพยายามผนวกทฤษฎี
ที่
เน้
น
บทบาทของศิ
ลปิน ทว่ามิ
ได้ศึ
กษาศิ
ลปินในฐานะปัจเจกชน แต่เน้นศึ
กษาในฐานะ
ของกลุ
่
มทางสั
งคมโดยวิ
เคราะห์
การจั
ดองค์
กรทางสั
งคมของช่
าง ซึ่
งท�
ำให้
มองเห็
นว่
า