งานวิจัยวัฒนธรรมภาคเหนือ
203
ก็
คงจะบ่
งบอกได้
อย่
างหนึ่
งถึ
งความพยายามในการช่
วงชิ
งพื้
นที่
วั
ฒนธรรมของเมื
อง
จอมทองให้
กลั
บมาเป็
นพื้
นที่
ศั
กดิ์
สิ
ทธิ์
อี
กครั้
งหนึ่
ง เฉกเช่
นเดี
ยวกั
นกั
บกรณี
ของเมื
อง
เชี
ยงใหม่ (Johnson 2011) ในท�ำนองที่
เปรี
ยบเสมื
อนการสร้างวาทกรรมตอบโต้กั
บ
แนวทางในการพัฒนาสังคมเมืองจอมทองปัจจุบัน ที่หันไปให้ความส�
ำคัญกับการ
พั
ฒนาโครงสร้
างสมั
ยใหม่
ขณะที่
ละเลยความร่
วมมื
อกั
นในทางวั
ฒนธรรมของ
คนท้
องถิ่
น โดยเฉพาะการจั
ดการระบบเหมื
องฝาย ซึ่
งคนท้
องถิ่
นก็
ถื
อว่
าพวกเขาเป็
น
ผู้
ดูแลธรรมชาติ
ด้
วย การฟื
้
นฟูพื้
นที่
ศั
กดิ์
สิ
ทธิ์
จึ
งมี
นั
ยเกี่
ยวข้
องกั
บการฟื
้
นฟูวั
ฒนธรรม
ของการร่
วมมื
อกั
นจั
ดการเหมื
องฝายด้
วยนั่
นเอง ซึ่
งคนท้
องถิ่
นเห็
นว่
ายั
งคงจ�
ำเป็
นต่
อ
การพั
ฒนาในปัจจุบั
น (Ariya 2011: 161-162)
อย่างไรก็ตามคนในสังคมเมือง เช่น เมืองเชียงใหม่ไม่ได้มีเพียงคนท้องถิ่น
เท่
านั้
น เพราะการพั
ฒนาเมื
องอย่
างรวดเร็
วในเชิ
งเศรษฐกิ
จได้
เปลี่
ยนให้
เมื
อง
กลายเป็
นศูนย์
กลางของการบริ
โภคความเจริ
ญสมั
ยใหม่
และได้
ดึ
งดูดให้
ผู้
คน
เคลื่
อนย้
ายเข้
ามาอยู่
ในเมื
องเพิ่
มขึ้
น ทั้
งจากชนบทและคนพลั
ดถิ่
นข้
ามชาติ
กลุ
่
ม
ต่
างๆ อี
กมากมาย เนื่
องมาจากอิ
สรภาพในการเคลื่
อนย้
ายที่
เพิ่
มมากขึ้
น เพราะ
การพั
ฒนาด้
านการคมนาคม จนท�
ำให้
สั
งคมเมื
องมี
ผู้
อยู่
อาศั
ยที่
มี
ลี
ลาชี
วิ
ตแตกต่
าง
กั
นอย่
างหลากหลาย และกลายเป็
นสั
งคมพหุ
ชาติ
พั
นธุ
์
มากขึ้
น แต่
ผู้
คนทั้
งหลาย
ต่
างคนต่
างก็
ไม่
ได้
สนใจใยดี
กั
นมากนั
ก โดยต่
างคนต่
างอยู่
บนพื้
นฐานของความรู้
สึ
ก
ของความเป็นปัจเจกชนที่เพิ่มมากขึ้น ตามลักษณะของการพัฒนาความเป็นเมือง
ขนาดใหญ่
ซึ่
งท�
ำให้
ผู้
คนกลายเป็
นคนแปลกหน้
าของกั
นและกั
น และยั
งตั
ดขาดจาก
รากเหง้าของตนเองมากยิ่งขึ้นด้วย ทิศทางการพัฒนาสังคมเมืองดังกล่าวได้สร้าง
ผลกระทบอย่
างมากมายต่
อคนชายขอบ และกลุ
่
มคนที่
ก่
อตั
วขึ้
นมาใหม่
ในสั
งคม
เมื
อง โดยเฉพาะการไร้ตั
วตนและไร้ความมั่
นคงในการด�
ำรงชี
วิ
ต
แต่
การศึ
กษาเกี่
ยวกั
บกลุ่
มคนที่
ก่
อตั
วขึ้
นมาใหม่
ในสั
งคมเมื
องเหล่
านี้
ยั
งมี
อยู่
น้
อยมาก งานวิ
จั
ยชิ้
นแรกๆ ชิ้
นหนึ่
งสนใจกลุ่
มวั
ยรุ่
นหญิ
งในชุ
มชนชานเมื
อง ในงาน
ของวารุ
ณี
ฟองแก้วเรื่
อง “Gender socialization and female sexuality in northern
Thailand” (Warunee 2002) ซึ่
งพบว่
า เพศวิ
ถี
ได้
กลายเป็
นพื้
นที่
ช่
วงชิ
งทางวั
ฒนธรรม