งานวิจัยวัฒนธรรมภาคเหนือ
101
ที่
สอดคล้
องกั
บสถานการณ์
ในประเทศไทยที่
ไม่
ได้
หมายความเพี
ยงว่
ากลุ
่
มใด
อยู่
มาก่
อนเท่
านั้
น แต่
หมายถึ
งกลุ่
มชนเผ่
าและชาติ
พั
นธุ์
ที่
ยั
งเข้
าไม่
ถึ
งสิ
ทธิ
ต่
างๆ เช่
น
สิ
ทธิ
พลเมื
อง สิ
ทธิ
ในทรั
พย์
สิ
น สิ
ทธิ
ทางวั
ฒนธรรม เป็
นต้
น ประการที่
สอง การเชื่
อมต่
อ
กั
บกลไกขบวนการเคลื่
อนไหวของกลุ่
มชาติ
พั
นธุ์
ในประเทศเพื่
อด�
ำเนิ
นกิ
จกรรมต่
างๆ
ที่
จะให้
ได้
มาซึ่
งสิ
ทธิ
ของชนเผ่
าพื้
นเมื
องที่
ระบุ
ไว้
ในปฏิ
ญญาสากล ก่
อให้
เกิ
ด
ความตื่
นตั
วและการขยายตั
วของเครื
อข่
ายชนเผ่
าพื้
นเมื
อง ในการเรี
ยกร้
องสิ
ทธิ
ในด้
านต่
างๆ ทั้
งนี้
เครื
อข่
ายชนเผ่
าพื้
นเมื
องในประเทศไทยได้
จั
ดงานมหกรรมชนเผ่
า
เพื่
อเฉลิ
มฉลองวั
นชนพื้
นเมื
องโลก และเพื่
อเปิ
ดเวที
ระดมปั
ญหาและหาทางออก
เป็นประจ�
ำทุ
กปี
4) การปรับปรุงเชิงสถาบันและแนวนโยบายว่าด้วยชาติพันธุ์ของ
รัฐไทย
รั
ฐไทยตั้
งศูนย์
วิ
จั
ยชาวเขาขึ้
นมาเพื่
อด�
ำเนิ
นการวิ
จั
ยและพั
ฒนาชาวเขา
ในปี
2508 ต่อมายกระดับเป็นสถาบันวิจัยชาวเขา และยุบไปหลังจากมีการปรับ
โครงสร้
างระบบราชการในปี
2545 ด้
วยเหตุ
ผลที่
ว่
า ชาวเขาได้
กลายเป็
นคนไทย
หรื
อมี
สถานะเช่
นเดี
ยวกั
บคนไทยทั่
วไป จึ
งไม่
จ�
ำเป็
นต้
องมี
นโยบายและสถาบั
นพิ
เศษ
มาด�
ำเนิ
นการกั
บชาวเขาในลั
กษณะที่
เป็
นกลุ
่
มที่
แตกต่
างจากกลุ
่
มอื่
นๆ ในช่
วงที่
มี
สถาบั
นวิ
จั
ยชาวเขาการท�
ำวิ
จั
ยและกิ
จกรรมการฝึ
กอบรมและสั
มมนาเกี่
ยวกั
บ
ชาวเขาที่
ด�
ำเนิ
นการโดยนั
กวิ
จั
ยในสั
งกั
ดสถาบั
น และนั
กวิ
จั
ยภายนอกซึ่
งรวมทั้
ง
นั
กวิ
จั
ยชาวต่
างประเทศที่
เข้
ามาร่
วมด�
ำเนิ
นการกั
บสถาบั
น มี
อย่
างต่
อเนื่
อง
โดยอาจแบ่
งแนวทางการท�
ำวิ
จั
ยออกได้
เป็
นสองแนวทางใหญ่
ได้
แก่
การท�
ำวิจั
ย
เชิ
งชาติ
พั
นธุ
์
วิ
ทยา (ethnology) ที่
เน้
นการท�
ำความเข้
าใจโครงสร้
างสั
งคมและ
วั
ฒนธรรมของชาวเขาแต่ละกลุ่ม ตามแนวทางการศึ
กษาแบบเดิ
มที่
ศึ
กษาเจาะลึ
ก
เพื่
อเป็
นประโยชน์
ต่
อการก�
ำหนดนโยบายการพั
ฒนา และแนวทางที่
สอง คื
อ
การวิ
จั
ยเชิ
งปฏิบัติการอันเป็
นการทดลองแนวทางการพั
ฒนาชาวเขาในด้
านต่
างๆ