Previous Page  73 / 318 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 73 / 318 Next Page
Page Background

72

โสวัฒนธรรม

แบบเดิมของกลุ่

มชาติพันธุ์

ตนเอง และที่ส�

ำคัญชาติพันธุ์

ผู้

ไทยนี้ยังสามารถรักษา

อั

ตลั

กษณ์

ทางวั

ฒนธรรมของตนเองไว้

ได้

ถึ

งแม้

จะต้

องปรั

บเปลี่

ยนไปบ้

างในบางอย่

าง

แต่

ส�

ำนึ

กทางชาติ

พั

นธุ

จะเป็

นตั

วบ่

งชี้

ถึ

งความเป็

นตั

วตนทางชาติ

พั

นธุ

และยึ

ดโยง

ลูกหลานผู้ไทยให้ส�

ำนึ

กในบรรพบุ

รุ

ษของตนเองได้

ชาติพันธุ์ไทยเขมรเป็นกลุ่มหนึ่

งที่ท�ำให้เห็นว่าภาษาเป็นอัตลักษณ์ที่ส�

ำคัญ

ที่

กลุ่มชาติ

พั

นธุ์สามารถธ�

ำรงความเป็นชาติ

พั

นธุ์ได้สูง เช่นงานของพิสิ

ฎฐ์ บุ

ญไชย

(2541) ได้กล่าวถึ

งชาติ

พั

นธุ์เขมร มี

ความเชื่

อประเพณี

อย่างเคร่งครั

ดในการสื

บทอด

ด้

านงานของบรรทมทิ

พย์

มี

ชั

ย (2540) ได้

กล่

าวถึ

งภูมิ

ปั

ญญาของลูกกรู (ผู้

ที่

มี

วิ

ชาอาคม

ในการรักษาโรค) ทั้งที่มีพิธีความเชื่อ ท�ำให้ชาวบ้านได้เห็นความส�ำคัญของพลังที่

มี

ปัญญาด้านวิ

ถี

ชี

วิ

ตวั

ฒนธรรม

การศึกษาภูมิปัญญาของชาวไทยเขมรคือพิธีกรรมเล่นละเลง มีการติดต่อ

ผ่านร่างทรง ซึ่

งได้น�

ำมาเป็นการรั

กษาเกี่

ยวกั

บความสั

มพั

นธ์กั

บชาติ

พั

นธุ์อื่

นๆ ก็

ได้

ตลอดจนงานวิ

จั

ยของ ประนอม เที

ยบทอง (2536) ได้

ศึ

กษาจารี

ตประเพณี

ตาม

อั

ตสั

ยสองถึ

งการเกิ

ด การบวช การแต่งงาน และการตาย

นอกจากนี้

มี

การศึ

กษากลุ

มชาติ

พั

นธุ

เขมรถิ่

นไทยหลายเรื่

องที่

ได้

แสดงถึ

งการ

ใช้

ภาษาในบทเพลงกล่

อมเด็

ก การขั

บเจรี

ยงแบรั

ญ ซึ่

งแสดงถึ

งเอกลั

กษณ์

ด้

านภาษา

เป็นอย่างมาก (คริ

สเตี

ยม บางเลอร์ม, 2536; วิ

จิ

ตร์นาจั

บ งามสะพรั่

ง, 2543; อรชร

ทองสดา ;2539 และ จารุ

วรรณ ธรรมวั

ตร; 2539 เป็นต้น)

การที่กลุ่มชาติพันธุ์ไทยเขมรได้มีวิธีกรรมและขนบธรรมเนียมความเชื่อที่มี

การสื

บต่ออย่างต่อเนื่

องและการใช้ภาษาในการสนทนาในชุ

มชน เป็นเรื่

องของการ

ธ�

ำรงเอกลั

กษณ์ด้านภาษาแสดงถึ

งการใช้พลั

งภูมิ

ปัญญาในการเชื่

อมโยงเครื

อข่าย

ความสั

มพั

นธ์เพื่

อความอยู่รอดของกลุ่มชาติ

พั

นธุ์ของตน

กลุ่

มชาติ

พั

นธุ์

ที่

พูดภาษากูย ภาษาบรู และภาษาโส้

ซึ่

งอยู่

ในกลุ่

มของภาษา

มอญ เขมรก็

เป็นกลุ่มชาติ

พั

นธุ์หนึ่

ง ที่

มี

งานวิ

จั

ยหลายชิ้

นที่

สรุ

ปว่าเป็นกลุ่มภาษาที่

ไม่

มี

ภาษาเขี

ยน แต่

สามารถธ�

ำรงเป็

นเอกลั

กษณ์

แห่

งการสื่

อสารการปฏิ

บั

ติ

ที่

ถื