196
โสวัฒนธรรม
ให้ทันต่อความต้องการของผู้บริ
โภค ส่งผลให้ต้นทุนในการผลิตสูงขึ้น กลไกราคา
ถูกก�
ำหนดโดยพ่
อค้
าคนกลาง การพึ่
งพาอาศั
ยซึ่
งกั
นและกั
นของคนในชุ
มชน
ลดลง
ผลจากการพั
ฒนาด้
านเศรษฐกิ
จส่
งผลให้
ชุ
มชนพั
ฒนากลายเป็
นชุ
มชน
แบบชุ
มชนเมื
อง ชุ
มชนเมื
องเดิ
มกลายเป็
นชุ
มชนเมื
องขนาดใหญ่
หรื
อกลายเป็
น
เมืองหลัก ความเจริญก่อให้เกิดอาชีพใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างหลากหลาย โครงสร้าง
เศรษฐกิ
จชุ
มชนเปลี่
ยนแปลงไปจากภาคเกษตรกรรมเป็
นอุ
ตสาหกรรม รายได้
ต่
อหั
ว
ต่
อครั
วเรื
อนเพิ่
มขึ้
นแต่
การกระจายรายได้
ไม่
มี
ความเป็
นธรรม นอกจากนี้
ผลจากการ
พัฒนาเมืองหลักท�
ำให้ที่ดินมีราคาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกษตรกรที่มีฐานะ
ยากจนขายที่
ดิ
นที่
อุ
ดมสมบูรณ์
ให้
แก่
นายทุ
น ละทิ้
งอาชี
พการเกษตรไปเป็
นกรรมกร
ขายแรงงานในภาคอุตสาหกรรมในเมืองใหญ่
จากการศึกษาของมณีมัย ทองอยู่
(2546) เรื่
องการเปลี่
ยนแปลงเศรษฐกิ
จชาวนาอี
สาน : กรณี
ชาวนาลุ
่
มน�้
ำพอง จั
งหวั
ด
ขอนแก่
น พบว่
า พั
ฒนาการของเศรษฐกิ
จแบบทุ
นนิ
ยมทั้
งในระดั
บประเทศและระดั
บ
โลกท�
ำให้ภาคเกษตรอ่อนแอ เกิ
ดการอพยพแรงงานจากภาคเกษตร เข้าสู่แรงงาน
ภาคอุ
ตสาหกรรม ซึ่
งก็
สอดคล้
องกั
บผลงานวิ
จั
ยของอนงนุ
ช เที
ยนทองและประภั
สสร
เตชะประเสริ
ฐวิ
ทยา (2542) เรื่
องการเปลี่
ยนแปลงเศรษฐกิ
จและสั
งคมการถื
อครอง
ที่
ดิ
น : กรณี
ศึ
กษาบ้
านกุ
ดกว้
าง จั
งหวั
ดขอนแก่
น พบว่
าวิ
ถี
ชี
วิ
ตชุ
มชนในระยะ
แรกมีระบบเศรษฐกิจเป็นแบบยังชีพ ต่อมามีความเจริญอย่างรวดเร็วส่งผลให้เกิด
การเปลี่
ยนแปลงด้
านเศรษฐกิ
จและสั
งคม กลายเป็
นระบบเศรษฐกิ
จแบบการค้
า
มากขึ้
นและมี
ความเป็นอยู่ที่
ซั
บซ้อนมากขึ้
น เป็นต้น
จากการศึ
กษาวิ
จั
ยพบว่
ามี
ปั
จจั
ย 2 ประการที่
มี
ส่
วนส�
ำคั
ญในการ
ผลั
กดั
นโครงสร้
างทางเศรษฐกิ
จของชุ
มชนอี
สานเปลี่
ยนแปลงไปอย่
างรวดเร็
ว ปั
จจั
ย
แรกคือปัจจัยภายใน คืออัตราการเพิ่มประชากรอย่างรวดเร็วของชาวอีสาน ส่วน
ปั
จจั
ยประการต่
อมาคื
อปั
จจั
ยภายนอกซึ่
งเป็
นผลมาจากการประกาศใช้
แผนพั
ฒนา
เศรษฐกิ
จและสั
งคมแห่งชาติ
ของรั
ฐบาลนั่
นเอง