งานวิจัยวัฒนธรรมภาคเหนือ
95
ทั้
งในส่
วนของกลุ
่
มเลี้
ยงสั
ตว์
ตามทุ
่
งหญ้
า กลุ
่
มคนที่
อยู่
ชายฝั
่
ง หรื
อหมู่
เกาะ
กลุ่มที่อยู่
บนพื้นที่สูง หรือตามแหล่
งน�้
ำธรรมชาติ โดยเป็
นการศึกษาที่เน้นเฉพาะ
กลุ
่
มใดกลุ
่
มหนึ่
ง และครอบคลุ
มทุ
กด้
าน ได้
แก่
ระบบการเมื
อง เศรษฐกิ
จ วั
ฒนธรรม
สั
งคม ศาสนา ฯลฯ การศึ
กษาในลั
กษณะนี้
ท�
ำให้
เข้
าใจว่
า การศึ
กษาชาติ
พั
นธุ
์
สั
มพั
นธ์
ก็
คือการศึ
กษากลุ่มชาติพั
นธุ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่
งเป็นการศึกษาเพื่
อท�
ำความเข้าใจ
อั
ตลั
กษณ์
ทางชาติ
พั
นธุ
์
ซึ่
งหมายถึ
งลั
กษณะเฉพาะทางภาษาและวั
ฒนธรรมของ
แต่ละกลุ่ม
ในยุ
คของการเคลื่
อนย้
ายผู้
คนและสิ่
งของและการติ
ดต่
อสื่
อสารที่
สะดวกรวดเร็
วเนื่
องจากการพั
ฒนาเทคโนโลยี
การสื่
อสาร อั
นเป็
นยุ
คที่
แนวทาง
การศึ
กษาแบบหลั
งสมั
ยใหม่
พั
ฒนาขยายตั
ว การศึ
กษาด้
านชาติ
พั
นธุ
์
สั
มพั
นธ์
เริ่
มใช้
แนวคิ
ดหลั
งสมั
ยใหม่
ในการศึ
กษามากขึ้
น ชาติ
พั
นธุ
์
สั
มพั
นธ์
ถูกศึ
กษา
ในลั
กษณะของ “วาทกรรม” ที่
เป็
นการสร้
างความหมาย ผ่
านสถาบั
นการศึ
กษาหรื
อ
สถาบันที่สร้
างความรู้
และความเป็
นจริง ในท่
ามกลางการช่
วงชิงเพื่อการครอบง�
ำ
และการต่อต้านในความสั
มพั
นธ์เชิ
งอ�
ำนาจ ตามแนวคิ
ดของฟูโกต์ (Foucault 1980)
“ความเป็
นชาติ
พั
นธุ
์
” ถื
อเป็
นวาทกรรมอย่
างหนึ่
งว่
าด้
วยความหมายและความรู้
ของประวั
ติ
ความเป็นมา ลั
กษณะทางวั
ฒนธรรม ความคิ
ดความเชื่
อ และแนวทาง
ปฏิ
บั
ติ
ต่างๆ ของกลุ่มคน ซึ่
งเป็นการสร้างตั
วตนความเป็น “เรา” ที่
ต่างจาก “เขา”
โดยพบว่
า การเกิ
ด “ความเป็
นชาติ
พั
นธุ
์
” เริ่
มจากนโยบายของรั
ฐที่
มี
การ
จ�
ำแนกแยกแยะประเภทของผู้
คนเพื่
อประโยชน์
ทางการเมื
องและการปกครอง
ในขณะเดี
ยวกั
นกลุ่
มต่
างๆ ก็
พั
ฒนา “ความเป็
นชาติ
พั
นธุ์
” ของตนเองขึ้
น เพื่
อสร้
าง
ภาพลั
กษณ์
ใหม่
สั
ญลั
กษณ์
ใหม่
เพื่
อการรวมตั
วให้
มี
พลั
งในการต่
อสู้
กั
บรั
ฐหรื
อ
กลุ
่
มอื่
น อั
นจะน�
ำไปสู่
การปรั
บเปลี่
ยนความสั
มพั
นธ์
เชิ
งอ�
ำนาจ ดั
งตั
วอย่
างของ
กลุ
่
มชาติ
พั
นธุ
์
บนพื้
นที่
สูงในประเทศไทยที่
มี
ข้
อเรี
ยกร้
องและการเคลื่
อนไหวในราว
สองทศวรรษที่
ผ่
านมาในสองเรื่
องที่
ส�
ำคั
ญ ได้
แก่
การเรี
ยกชื่
อ กลุ่
มองค์
กรชาติ
พั
นธุ์
รณรงค์ให้เรียกชื่อกลุ่มที่มีนัยที่เป็นคนป่าล้าหลังหรือเป็นชื่อที่ผู้อื่นเรียก ให้เป็นชื่อ
ที่
คนในกลุ่มเรี
ยกเองเช่นจาก “กะเหรี่
ยง” หรื
อ “ยาง” เป็น “ปกาเกอะญอ” จาก