Previous Page  94 / 272 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 94 / 272 Next Page
Page Background

งานวิจัยวัฒนธรรมภาคเหนือ

93

และให้

ความหมายว่

าชาติ

พั

นธุ

สั

มพั

นธ์

เป็

นสิ่

งที่

“สั

งคมสร้

างขึ้

นมา เกี่ยวกั

บการ

สื

บเชื้

อสายและวั

ฒนธรรม (Social Construct of Descent and Culture) รวมทั้

งความ

หมายของระบบการจ�

ำแนกประเภท (classification System) ที่

เกิ

ดตามมา” ด้

วยเหตุ

นี้

กลุ

มชาติ

พั

นธุ

ก็

หมายถึ

ง การสร้

างจิ

นตนาการหรื

อประดิ

ษฐ์

คิ

ดค้

นทางสั

งคม

ในเรื่

องที่

เกี่

ยวกั

บการสื

บเชื้

อสายและวั

ฒนธรรมร่

วมกั

น โดยในทางรูปธรรมอาจจะมี

การสืบเชื้อสายและวัฒนธรรมร่วมกันอยู่จริงก็ได้ขณะเดียวกันก็เป็นกลุ่มที่สร้างขึ้น

ทางสั

งคมด้วย (Socially Constructed) ดั

งตั

วอย่างกลุ่ม “ไดยั

ก” (Dayak) ในบริ

เวณ

ชายแดนของมาเลเซี

ยและอิ

นโดนี

เซี

ย ที่

สุ

เทพ สุ

นทรเภสั

ช (2548:11) ยกตัวอย่าง

ว่

าหมายถึงกลุ่

มใดกั

นแน่

เมื่

อค�

ำว่

า “ไดยั

ก” เป็

นภาษามลายูที่

มี

ความหมายว่

“ชนบท” บางที

อาจจะถูกเรี

ยกด้

วยชื่

ออื่

นอี

กหลายชื่

อเช่

น “อี

บาน” หรื

อ “บิ

ดายุ

ฮ์

จึ

งเป็

นค�

ำถามว่

าชาวไดยั

กเป็

นกลุ

มชาติ

พั

นธุ

ที่

แท้

จริ

งหรื

อไม่

ในความหมายใด

นอกจากนี้

สุ

เทพ สุ

นทรเภสั

ช (2548: 35) ยั

งเน้

นว่

า “ชาติ

พั

นธุ

สั

มพั

นธ์

ไม่

ใช่

เป็

นเพี

ยง

“ความแตกต่

าง” เท่

านั้

น แต่

ยั

งเป็

นเรื่

องของความไม่

เท่

าเที

ยมกั

นทางโครงสร้

างและ

การล�

ำดั

บขั้

นของความแตกต่

าง” อี

กด้

วย ในขณะที่

ฉวี

วรรณ ประจวบเหมาะ (2547: 4)

แปลค�

ำว่

า ethnicity เป็

นชาติ

พั

นธุ

ธ�

ำรง หรื

อการศึ

กษาการธ�

ำรงชาติ

พั

นธุ

หรื

จิตส�ำนึ

กชาติพันธุ์ และเห็นว่ามีการให้ความหมายหลายแบบ บางคนเช่น Isajew

(1973: 111 อ้

างใน ฉวี

วรรณ ประจวบเหมาะ 2547:5) ให้

ความหมายที่

แคบถื

อว่

าการ

ศึ

กษาชาติ

พั

นธุ์ธ�

ำรง (ethnicity) คื

อการศึ

กษากลุ่มชาติ

พั

นธุ์ (ethnic group) ในขณะ

ที่

แอบเนอร์ โคเฮน (Abner Cohen) ให้ความหมาย ชาติ

พั

นธุ์ธ�

ำรงในลั

กษณะที่

กว้าง

นั่

นคื

อถื

อว่าเป็น “ระดั

บที่

สมาชิ

กขององค์รวม (collectivity) ยอมรั

บเอาบรรทั

ดฐาน

ร่วมในกระบวนการปฏิ

สั

มพั

นธ์ทางสั

งคม” (เพิ่

งอ้าง หน้า 5)

ส�

ำหรั

บแนวทางหน้าที่

นิ

ยม เน้นท�

ำความเข้าใจชาติ

พั

นธุ์สั

มพั

นธ์ในลั

กษณะ

เครื่

องมื

อของการปรั

บเปลี่

ยนสถานภาพ เพื่

อการอยู่

ร่

วมกั

นได้

อย่

างสงบสุ

ขในสั

งคม

แนวทางนี้

เกี่

ยวพั

นกั

บแนวทางโครงสร้

างนิ

ยม ที่

ให้

ความส�

ำคั

ญกั

บการท�

ำความ

เข้

าใจโครงสร้

างความสั

มพั

นธ์

ทางการเมื

อง เศรษฐกิ

จ สั

งคมและวั

ฒนธรรม

ทั้

งภายในและระหว่

างกลุ

มหรื

อชุ

มชน และศึ

กษาวิ

เคราะห์

ว่

าชาติ

พั

นธุ

สั

มพั

นธ์

มี