Previous Page  219 / 272 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 219 / 272 Next Page
Page Background

218

กำ�กึ๊ดกำ�ปาก

4.7 บทสรุป

จากการสั

งเคราะห์

การวิ

จั

ยด้

านวั

ฒนธรรมกั

บการพั

ฒนาในกรณี

ของ

ภาคเหนื

อ โดยเฉพาะในช่

วงหลั

งจากปี

พ.ศ 2540 เป็

นต้

นมานั้นจะเห็

นได้

ว่

ความหมายของวั

ฒนธรรมได้

เปลี่

ยนแปลงไปอย่

างมาก จากก่

อนหน้

านี้

ที่

เคยผูกติ

อยู่กับความคิด เช่น อุดมการณ์ คุณค่า และภูมิปัญญา ในฐานะที่เป็นรากเหง้า

ของสั

งคม แม้

ว่

าความคิดเช่

นนี้

ในปั

จจุบันก็

อาจจะยั

งครองใจนั

กวิ

จั

ยจ�ำนวนมาก

อยู่

ก็

ตาม แต่

ในช่

วงเวลาต่

อมานั

กวิ

จั

ยได้

เริ่

มหั

นมาขยายเพิ่

มเติ

มมุ

มมองวั

ฒนธรรม

ในมิ

ติ

ของสิ

ทธิ

ทั้

งสิ

ทธิ

ทางวั

ฒนธรรม และสิ

ทธิ

ชุ

มชน รวมทั้

งการมองในแง่

ของ

ทุ

นทางวั

ฒนธรรมด้

วย ในท้

ายที่

สุ

ดความเข้

าใจวั

ฒนธรรมก็

ได้

ค่

อยๆ เปลี่

ยนมา

ให้ความส�ำคั

ญกั

บความคิ

ดวาทกรรมและพื้

นที่

ทางวั

ฒนธรรมมากขึ้

น เหตุ

ผลหลั

ในด้

านหนึ่

งนั้

นก็

คื

อการหั

นมามองความเป็

นพลวั

ตของวั

ฒนธรรมในเชิ

งกระบวนการ

ขณะที่

ในอี

กด้

านหนึ่

งจะเน้

นความซั

บซ้

อนของวั

ฒนธรรมในเชิ

งปฏิ

บั

ติ

การของ

กลุ

มคนที่

หลากหลาย ที่

ต้

องการช่

วงชิ

งความหมายของการพั

ฒนาและต่

อรอง

อัตลักษณ์ ซึ่งช่วยให้เห็นถึงความซับซ้อนของมิติต่างๆ ทางวัฒนธรรมก่อนหน้านี้

ทั้

งในแง่

ของคุ

ณค่

า ภูมิ

ปั

ญญา และสิ

ทธิ

ว่

ามี

ความเชื่

อมโยงกั

นอย่

างไรมากขึ้

ผ่

านประเด็

นการวิ

จั

ยปั

ญหาต่

างๆ ของความเชื่

อมโยงระหว่

างวั

ฒนธรรมกั

การพั

ฒนาหลายประการด้วยกั

ในประเด็

นปั

ญหาประการแรกนั้

น งานวิ

จั

ยจะเกี่

ยวข้

องกั

บวาทกรรม

การพั

ฒนา ในบริบททางการเมื

องของอั

ตลั

กษณ์ทางชาติ

พั

นธุ์ ในฐานะที่

เป็นพื้

นที่

ทางวั

ฒนธรรม โดยเฉพาะของกลุ

มชนบนที่

สูง ซึ่

งพบว่

ามั

กจะถูกครอบง�

ำด้

วย

วาทกรรมการพั

ฒนาของรั

ฐ ที่

มุ

งเน้

นเฉพาะเศรษฐกิ

จเชิ

งพาณิ

ชย์

เป็

นหลั

ก และยั

งแฝง

ไว้ด้วยอคติ

ทางชาติ

พั

นธุ์อี

กด้วย จนพวกเขาถูกกี

ดกั

นสิ

ทธิ

ในการใช้และจั

ดการป่า

กลุ

มชาติ

พั

นธุ์

บนที่

สูงทั้

งหลายจึ

งพยายามดิ้

นรนต่

อสู้

ในเชิ

งวั

ฒนธรรม ผ่

านการเมื

อง

ของการสร้

างอั

ตลั

กษณ์

ทางชาติ

พั

นธุ

อย่

างหลากหลาย เพื่

อการต่

อรองในฐานะ

ผู้มีความรู้ ที่

สามารถพั

ฒนาทางเลื

อกใหม่ๆ ในการจั

ดการและอนุ

รั

กษ์ป่าได้