Previous Page  86 / 238 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 86 / 238 Next Page
Page Background

งานวิจัยวัฒนธรรมภาคกลาง

85

ส่

วนร่

วมในการจั

ดการ จึ

งต้

องมี

การต่

อรอง เพื่

อปรั

บความสั

มพั

นธ์

เชิ

งอ�

ำนาจระหว่

าง

กั

นและกั

นใหม่

ความคิ

ดสิ

ทธิ

เชิ

งซ้

อนจึ

งช่

วยเปิ

ดพื้

นที่

ให้

กั

บการต่

อรองอ�ำนาจใน

การจั

ดการ ที่

มี

ความยื

ดหยุ

นและเป็

นจริ

งได้

มากขึ้

น แทนที่

จะยึ

ดติ

ดอยู่

กั

บคู่

ตรงข้

าม

ขั้

วใดขั้

วหนึ่

งอย่างตายตั

ว (Anan 2007)

ในบทความชิ้

นล่

าสุ

ดของผู้

เขี

ยน เรื่

อง “Transforming Agrarian Transformation

in the Globalizing Economy of Neoliberalism” (Anan 2008) ซึ่

งผู้เขี

ยนพยายาม

จะวิเคราะห์ประเด็นปัญหาของกระบวนการเปลี่ยนแปลง ที่ก�

ำลังเกิดขึ้นกับสังคม

เกษตรกรรม ในบริ

บทของกระบวนการโลกาภิ

วั

ตน์

ที่

มี

ทั้

งการครอบง�

ำความรู้

และการกีดกันผู้

คนออกจากการเข้

าถึ

งทรั

พยากร ผู้

เขี

ยนเองก็

พยายามจะมองให้

ทะลุ

คู่

ตรงข้

ามระหว่

างท้

องถิ่

นและโลกาภิ

วั

ตน์

ด้

วยการวิ

เคราะห์

ว่

ากระบวนการ

เปลี่

ยนแปลงดั

งกล่

าวเป็

น การเมื

องของการต่

อรองอ�

ำนาจที่

ซั

บซ้

อน ซึ่

งต่

อสู้

กั

นอย่

าง

เข้มข้

นใน “พื้นที่ความรู้

” ที่ไม่

ใช่ทั้งภูมิปั

ญญาท้องถิ่น หรือความรู้จากภายนอก

ด้านใดด้านหนึ่

งเท่านั้

ผู้

เขี

ยนเริ่

มมองวั

ฒนธรรมปฏิ

บั

ติ

การในมิ

ติ

ของ “พื้

นที่

ความรู้

” ด้

วยการปรั

บใช้

ความคิ

ดของ Andrew Turton ที่

มองความรู้

ว่

าเป็

นทั้

งวาทกรรมและปฏิ

บั

ติ

การ

ดั

งนั้

น “พื้

นที่

ความรู้

” จึ

งเป็

นพื้

นที่

ต่

อรองความหมายและอ�

ำนาจ ที่

อยู่

ระหว่

าง

คู่ตรงข้าม หรื

ออาจเรี

ยกว่าเป็นพื้

นที่

ที่

สาม เพราะสามารถผสมผสานความรู้ต่างๆ

อย่างหลากหลาย ที่อาจจะขัดแย้งกันเอง ในความพยายามของท้องถิ่นที่จะเลือก

กลยุ

ทธ์

ในการพั

ฒนา สร้

างเครื

อข่

าย หรื

อสร้

างอั

ตลั

กษณ์

ใหม่

เพื่

อมาต่

อรอง

ในการด�

ำรงชี

วิ

ในสถานการณ์

ดั

งกล่

าว การเปลี่

ยนแปลงที่

เกิ

ดขึ้

นในสั

งคมเกษตรในปั

จจุ

บั

จึ

งไม่

ได้

ถูกก�

ำหนดจากโลกาภิ

วั

ตน์

ด้

านเดี

ยว ตามที่

มั

กจะเข้

าใจกั

น แต่

ท้

องถิ่

นก็

มี

ส่

วนในการต่

อรองและปรั

บเปลี่

ยนตั

วเองด้

วย จากปฏิ

บั

ติ

การของการสร้

างความรู้

ที่ผสมผสานขึ้นมาใน “พื้นที่ความรู้” นั่

นเอง ซึ่งมีส่วนอย่างส�ำคัญในการผลักดัน

ไปสู่

การพั

ฒนาแบบมี

ส่

วนร่

วมมากขึ้

น พร้

อมๆ กั

บการปรั

บเปลี่

ยนพื้

นที่

ของ

การต่อสู้ใหม่ๆ ด้วย